Browse By

Category Archives: Fashion Review

COS เผยคอลเลคชั่น Autumn / Winter 2019 ต้อนรับฤดูหนาว

คอลเลคชั่น COS Autumn Winter 2019 บอกเล่าเรื่องราวสองคอนเซ็ปต์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน มีความแข็งกร้าวที่แสดงผ่านเส้นที่คมและเหลี่ยมมุมแบบสถาปัตยกรรม พร้อมกับความสงบเงียบท่ามกลางธรรมชาติ หลอมรวมโลกแห่งธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์รังสรรค์เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ด้วยความขัดแย้งของรูปทรง แต่เต็มไปด้วยพลังสุดน่าหลงใหล โครงสร้างที่แข็งแกร่ง และความพลิ้วไหวของเนื้อผ้า ทุกสิ่งผสมผสานกันออกมาเป็นเสื้อผ้าที่มีทรงใหญ่โคร่งผสมผสานการใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติเข้ากับนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรังสรรค์รูปทรงที่ดูมีโครงสร้างชัดเจน การออกแบบด้วยวิธีใหม่ใช้ความละเอียดอ่อนของการสร้างและทำลายเล่นกับวอลลุ่มต่าง ๆ ทำให้เกิดความโดดเด่น ช่วงไหล่ดูเป็นมุมและกว้างสำหรับเสื้อผ้าของบุรุษ เสริมด้วยข้อมือ สาย และเข็มขัดเพื่อเพิ่มความสบาย ๆ ให้กับลุค สำหรับเสื้อผ้าของผู้หญิงนั้นดูเรียบง่ายและเน้นจุดเด่นที่ใดเพียงที่หนึ่ง สีสันที่ใช้ในคอลเลคชั่นนี้มาจากธีมหลัก 2 ธีม ได้แก่สีเทาแบบอุตสาหกรรม ผสมผสานเข้ากับสีที่อ่อนละมุน เช่นสีเทาอ่อนและสีครีมโอ๊ตมีล ทำให้เกิดความรู้สึกบางเบาในแบบฤดูหนาว เสริมความอบอุ่นด้วยสีสนิมและสีม่วงพลัม คอลเลคชั่นนี้เป็นการเล่นกับเสื้อผ้าแบบเก่าแต่นำมาปรับรูปแบบใหม่ด้วยรายละเอียดที่สนุกสนานงานฝีมือ อย่างการอัดพลีทได้แรงบันดาลใจมาจากกระโปรงคิลท์ที่นำมาใช้ในเสื้อผ้าสตรี ผลิตจากผ้าเนื้อบางเบาเพื่อให้เกิดความพลิ้วยามเคลื่อนไหวนอกจากนี้ยังมีผ้าวูลเนื้อหนาที่นำมารังสรรเป็นชุดเดรสอีกด้วย สำหรับเสื้อผ้าสุภาพบุรุษนั้นได้นำคิลท์มาทำเป็นผ้ากันเปื้อนสไตล์คลาสสิค เข้ากับกางเกงขายาวสีดำและเสื้อเชิ้ตขาว สร้างลุคที่โมเดิร์นและดูสนุกสนาน นอกจากนี้ในฤดูกาลนี้ยังมีการนำเสื้อผ้าแบบเดิมๆ มาปรับลุคใหม่ ช่วงคอเป็นแบบทางการ รูปทรงหลวมขึ้นและยาวขึ้น และช่วงเอวทำให้ช่วงตัวดูตรงและมีสัดส่วนมากขึ้น เสื้อนอกบุนวมมาพร้อมกับสองฟังก์ชั่น

Piaget นำเสนอคอลเลคชั่นล่าสุด “Golden Oasis”

Golden Oasis คอลเลคชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูงล่าสุด ที่ เพียเจต์ (Piaget) ตั้งใจนำเสนอแรงบันดาลใจของทิวทัศน์ทะเลทรายในหลากหลายช่วงเวลา เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ Golden Oasis จึงหยิบ 3 มุมมองไฮไลท์อย่าง Play of Lights, Desert Minerals และ Native Bloom มาเป็นเครื่องสะท้อนการใช้ชีวิต โดยผสานหัตถศิลป์และจินตนาการอันสร้างสรรค์ไว้ในทุกรายละเอียด และด้วยปรัชญาที่แน่วแน่ของแบรนด์ ประกอบกับทักษะฝีมืออันเลื่องชื่อ เพียเจต์จึงคงเป็นผู้นำในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 140 ปี โดยกลุ่มคอลเลคชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูงถือเป็นสไตล์ที่เมซงถนัดและมีความโดดเด่นมากที่สุด ดังจะเห็นได้จากการหลอมรวมโลหะมีค่า อัญมณีบริสุทธิ์ เข้ากับนวัตกรรมการออกแบบ จนเกิดเป็นสุดยอดงานศิลป์ที่ยากจะเลียนแบบ Golden Hour necklace  บนตัวเรือนแพลตินัมและเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัต ดึงดูดสายตาด้วยเพชรแฟนซีสีเหลืองเข้มขนาด 6.63 กะรัต เพชรแฟนซีสีเหลืองเข้มถือเป็นเพชรหายากมากตามธรรมชาติ เมื่อเทียบสัดส่วนจะพบว่าในเพชรธรรมดา 10,000 กะรัต มีเพียง 1

LUXOTTICA จัดให้กับเทรนด์แว่นตาแนวสปอร์ต พร้อมลุยทุกไลฟ์สไตล์

LUXOTTICA ชวนทุกคนมาเพิ่มความสปอร์ตด้วยการเลือกแว่นกันแดดที่สามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวันที่มีกลิ่นอายของความสปอร์ตมากขึ้น ช่วยทำให้ลุคดูสนุก เท่และฉาบเฉียว ซึ่งจะช่วยเพิ่มสีสันและสไตล์ให้กับแฟชั่น เฟรมขนาดใหญ่แบบทันสมัยที่จะทำให้คุณเตรียมพร้อมไปกับทุกโอกาส และจะทำให้คุณดูดีในทุกเวลา เพิ่มความสนุกไปกับสีสันและลวดลายของแว่น จะมีแบรนด์ไหน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันค่ะ OAKLEY – OO9424 MERCENARY (6,900 บาท) Oakleyได้ออกแบบรูปลักษณ์ของแว่นตาที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยรุ่น Mercenaryใหม่ให้ดูดียิ่งขึ้น มีพื้นฐานในเรื่องของประสิทธิภาพและมาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ในแนวสปอร์ต จึงทำให้แว่นตารุ่นนี้อยู่แถวหน้าของแว่นตาที่มีประโยชน์ใช้สอยสูง มีสไตล์โดดเด่นด้วยการใช้สถาปัตยกรรมขาเชื่อมแบบคู่ทันสมัย และเลนส์ทรงกลมขนาดใหญ่ผสมผสานเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ PRADA – PR 72VS (17,750 บาท) แว่นกันแดด Prada Maquillage ได้ตีความธีมหลักของคอลเลคชั่นรุ่นโลหะโฉมใหม่ ด้านหน้าที่มีเฟรมขนาดใหญ่ซึ่งล้อมรอบด้วยโลหะ ที่มาพร้อมกับหลากหลายเฉดสีเช่น สีเทา และ สีเทาอาราบัสเตอร์ PRADA – PR 73VS (19,250 บาท) แว่นกันแดดรุ่นใหม่จาก Prada

แรงบันดาลใจจากฟอร์มูล่า 1 สู่เรือนเวลาสปอร์ตสมรรถนะสูง Bell & Ross R.S.19

Bell & Ross(เบลแอนด์รอส) สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแสดงถึงพลังความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณแห่งการคิดค้น ล่าสุดเบลแอนด์รอสได้กลับมาร่วมมือกับทีมแข่งขันรถสูตรหนึ่งระดับโลกอย่าง Renault F1 Team(เรโนลต์เอฟวัน ทีม) ซึ่งเป็นปีที่ 4 ของทั้งสองค่ายที่พากันก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลกด้านความเร็วโดยล่าสุดได้เผยโฉมสี่เรือนเวลาอัจฉริยะคอลเลคชั่นR.S.19 ที่พร้อมจะโลดแล่นบนสนามในเร็ววัน การร่วมมือระหว่างเบลแอนด์รอส และเรโนลต์เอฟวัน ทีม มีเป้าหมายเดียวกันคือการพิชิตสุดยอดกลไกทางวิศวกรรมสมรรถนะสูงเพื่อต้อนรับ 2 นักแข่งรถยอดฝีมืออย่างนิโค ฮัลเคนเบิร์ก(NicoHulkenberg)ชาวเยอรมันและแดเนียลริคคาร์โด้(Daniel Ricciardo)ชาวออสเตรเลียที่ก้าวเท้าเข้ามาร่วมทีมกับเรโนลต์เอฟวันเบลแอนด์รอสได้หยิบเอาสีเหลือง ดำ เขียว แดง และส้มซึ่งมีต้นแบบมาจากรถแข่งสูตรหนึ่งแห่งเรโนลต์เอฟวัน ทีม ที่เริ่มใช้ในคอลเลกชั่นR.S.17 เป็นครั้งแรก พร้อมสร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีสมรรถนะแห่งการจับเวลาสูงถือเป็นหัวใจสำคัญสูงสุดในโลกของการแข่งขันด้านความเร็ว เบลแอนด์รอส ได้ดึงดีไซน์จากรถสูตรหนึ่งมาผสมผสานเข้ากับความล้ำสมัยแห่งเทคโนโลยีและหลอมรวมด้วยนวัตกรรมสูงสุดของวัสดุที่ใช้ในโลกแห่งการแข่งขันด้านความเร็วพร้อมด้วยรหัสสีสัญลักษณ์ทั้งหมดซึ่งหาชมได้ไม่บ่อยนักในเรือนเวลาระดับไฮเอนด์ และยังได้มอบซึ่งประสิทธิภาพฟังก์ชั่นแห่งการจับเวลา การแสดงผลโครโนกราฟ หรือการแสดงพลังงานสำรองได้อย่างชัดเจนและแม่นยำไว้ในสุดยอดเรือนเวลาทั้ง 4 นี้ BR V3-94 R.S.19 (บีอาร์ วี3-94 อาร์เอส19)และ BR 03-94R.S.19(บีอาร์ 03-94

Coach คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี 2019

และอีกหนึ่งคอลเลคชั่นสุดชิคที่สาวๆ หลายคนรอคอย กับคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี 2019 Coach ครั้งนี้ทางแบรนด์ได้นำเสนอกรอบแว่นที่หรูหราและมีความร่วมสมัย ด้วยรูปทรงที่เท่และ คลาสสิกหวนให้นึกถึงการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ และได้ปรับรายละเอียดอันเป็นซิกเนเจอร์ให้ทันสมัยขึ้น รวมถึงมีฝีมือการ ออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งคอลเลคชั่นนี้ทำให้เกิดเป็นไลฟ์สไตล์แบบอเมริกันคลาสสิกของ Coach มาพร้อมความหรูหราและการ สรรค์สร้างที่ทันสมัย แต่ละโมเดลประกอบด้วยรายละเอียดที่ประณีตและธีมที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ เช่น เรื่องราวที่ใช้ดอก Tea Rose แสดงถึงความ เป็นเฟมินีนที่ดูสดใส และโลโก้ตัว C แกะสลักที่มาคู่กับขาแว่นแบบโค้งอันเป็นตำนานของ Coach การออกแบบที่เป็นทรงหนาและมีความแวววาวมาในสีที่มีชีวิตชีวารวมถึงมีกลิตเตอร์เพื่อให้เป็นแฟชั่นที่ดูสนุกสนานและสามารถใส่ได้ทุกโอกาส จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ HC 7101B แว่นทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ดูโดดเด่นด้วยโครงแว่นจากวัสดุแบบผสม ซึ่งแต่งเพิ่มด้วยตัวเชื่อมแกะสลักและตกแต่งด้วย Tea Rose ไว้ด้านหน้า ขาแว่นแบบโค้งอันเป็นตำานานของ Coach กับโลโก้แกะสลักตัว C ที่แต่งด้วยคริสตัลมีให้เลือกในสีเทา/ม่วงมันเงาที่มีกลิตเตอร์สีใสกับขาแว่นสีเทามันเงาพร้อม เลนส์สีฟ้าชมพูไล่เฉดสี และสีโรสโกลด์มันเงา/ชมพูโปร่งแสงกับขาแว่นสีโรส โกลด์มันเงาพร้อมเลนส์สีชมพูไล่เฉดสี HC

BOLON  เปิดตัวคอลเลคชั่นแว่นตา Spring/Summer 2019

โบลอง (BOLON) แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ดีไซน์จากประเทศอิตาลีผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์แว่นกันแดดและแว่นสายตาแฟชั่นที่ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง เปิดตัวคอลเลคชั่น Spring/Summer 2019 ด้วยแคมเปญ “I SEE ME” เพื่อการยกย่องเอกลักษณ์เฉพาะตัวและการยอมรับตัวตนผ่านการเคารพในความหลากหลายของผู้คนในสังคม โดยมีดารานางแบบสาวชื่อดัง “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำประเทศไทยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน   แว่นตาโบลอง (BOLON) ในคอลเลคชั่น Spring/Summer 2019 นำเสนอดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย ความหรูหรา และเข้ากับเทรนด์แฟชั่นล่าสุดซึ่งถือเป็นจิตวิญญาณแห่งการออกแบบของโบลอง (BOLON) แบรนด์ชื่อดังระดับโลกได้ผนวกจิตวิญญาณนี้เข้ากับงานออกแบบแฟชั่นระดับสูงในการสร้างสรรค์แว่นตาสไตล์คลาสสิกแนวร่วมสมัย ผสานการใช้วัสดุสมัยใหม่คุณภาพเยี่ยม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการออกแบบแว่นตาทุกชิ้นคือผลงานศิลปะอันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ โดยคอลเลคชั่นใหม่ในปี 2019 นำเสนอแว่นกันแดด 6 ซีรี่ส์ และกรอบแว่นสายตา 3 ซีรี่ส์ แต่ละซีรี่ส์นำเสนอความโดดเด่นและสไตล์ที่แตกต่างกันทั้งแนวคลาสสิก หรูหรา เก๋ไก๋ และทันสมัย ตอบรับกับสไตล์ของผู้สวมใส่ที่แตกต่างได้อย่างลงตัว

BALENCIAGA SUMMER 19 คอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2019 ของ Balenciaga

รูปแบบการสร้างแพทเทิร์นอันชาญฉลาดคือหัวใจหลักในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ พลังและความคิด สร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นและขับเคลื่อนบาเลนเซียก้าในตอนนี้ก็คือนวัตกรรมในการตัดเย็บ ซึ่งเกิดมาจากการค้นพบวิธีการ จัดโครงสร้างในสไตล์งานสถาปัตยกรรมรูปทรงใหม่ให้กับเสื้อผ้า การทดลองนี้เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ในการสร้างรูปแบบแจ็กเก็ต และโค้ตแบบสามมิติขึ้นมาสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง กระบวนการนี้เองเป็นเสมือนการ หล่อหลอมงานในแบบเทเลอร์และงานกูตูร์ไว้ด้วยกัน สู่เสื้อผ้าในรูปแบบใหม่ที่ผู้คนสวมใส่กันจริงๆในแบบปัจจุบันนี้ ช่วงไหล่แบบใหม่ : ไหล่ทรงกล่องสี่เหลี่ยม การขยายช่วงหัวไหล่ของตัวเสื้อให้ยาวขึ้น และไม่มีแผ่นหนุนไหล่ งานเทเลอร์แบบใหม่ : ใช้การตัดเย็บในแบบงานเทเลอร์กับการตัดเย็บเสื้อเชิ้ตและกางเกง ซิลูเอ็ตต์ชุด : สร้างซิลูเอ็ตต์ของชุดโดยเห็นได้จากด้านหน้า โดยเฉพาะโครงชุดแบบรูปตัว C ปกเสื้อตั้ง สร้างความ ดรามาติก และชุดกระโปรงเย็บด้วยเทคนิคตะเข็บเดี่ยว งานโอต์กูตูร์ที่สวมใส่ง่าย : ชุดกระโปรงหรือชุดสูทสองชิ้นสำหรับสวมใส่งานตอนเย็นสร้างสรรค์ขึ้นด้วยการจับ เดรป รูปทรงของกระโปรงเป็นทรงแจกันหลากหลายแบบ เสื้อผ้าสามารถสวมใส่แล้วเคลื่อนไหวได้อย่างสง่างาม วิดีโอที่ปรากฏอยู่บนอุโมงค์และพื้นรันเวย์กำกับโดย Jon Rafman     The Ride Never Ends: การเดินทางอันไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับคอลเล็กชั่นฤดูร้อนปี

Levi’s Engineered Jeans จากแฟชั่นไอคอนยุค90 สู่มิลเลียนเนี่ยลสตรีทแฟชั่นแวร์

ลีวายส์® (Levi’s®) โดย ดีเคเอสเอช ประเทศไทย เผยโฉมปฐมบทแห่งกางเกงยีนส์ “ขาบิด” ลีวายส์ เอนจีเนียร์ ยีนส์ (Levi’s Engineered Jeans™) นำไอคอนนิคสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุค 90 ให้กลับมาโลดแล่นในวงการแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่เข้าใจสรีระศาสตร์ อันเป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับเทคโนโลยีการออกแบบในยุคปัจจุบัน เกิดเป็นวัฒนธรรมยีนส์แห่งอนาคต ที่ออกแบบเพื่อตอบสนองทุกสไตล์และความเคลื่อนไหว ของผู้สวมใส่ให้สมบูรณ์แบบที่สุดในทุกอริยาบท ตอบโจทย์เหล่าสาวก ลีวายส์® และผู้ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์สตรีทแฟชั่นที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก หลังจากที่ ลีวายส์® สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยีนส์ จากอดีตที่ใช้สวมใส่เฉพาะในโรงงาน อุตสาหกรรม สู่ความเป็นไอเท็มแฟชั่นสุดคูลที่ทุกคนต้องมีไว้ในครอบครอง ด้วยคุณสมบัติของผ้าที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการตัดเย็บที่มีการบิดโค้งซึ่งคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ (Ergonomics) ที่ลีวายส์® เป็นผู้บุกเบิกที่สร้างความกระชับพอดีตามสรีระของผู้สวมใส่ นวัตกรรมนี้ถูกพัฒนาเรื่อยมาจวบจนในปี 1999 ลีวายส์® ได้นำเสนอกางเกงยีนส์รุ่นใหม่ Levi’s® Engineered Jeans™ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการสร้างสรรค์กางเกงยีนส์ โดย Levi’s®

COS เปิดตัวคอลเลกชั่น THE WHITE SHIRT PROJECT 8 เสื้อเชิ้ตสีขาวดีไซน์คลาสสิค

COS แบรนด์ดังจากกรุงลอนดอนส่งคอลเลกชั่น The White Shirt Project เอาใจแฟนคลับ COS ทั้งชายและหญิง นำเสนอ 8 เสื้อเชิ้ตสีขาวดีไซน์คลาสสิค ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ COS อย่างสมบูรณ์แบบผ่านการออกแบบที่เรียบหรูและคัตติ้งสุดประณีต พร้อมขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชั่นจาก COS ที่ควรมีติดตู้เสื้อผ้า  สำหรับคอลเลกชั่น The White Shirt Project นี้ ได้ทีมดีไซเนอร์และช่างตัดเย็บของ COS มาครีเอทไอเดียร่วมกัน โดย อิง Non-linear Creative Process หรือขั้นตอนการออกแบบชิ้นงานจากการประติดประต่อจินตนาการของผู้ออกแบบเข้าด้วยกันและถ่ายทอดความสัมพันธ์ผ่านชิ้นงาน ผสมผสานเทคนิคการตัดเย็บเหนือชั้นอย่าง 3D Draping หรือการจับจีบที่สลับซับซ้อน โดย COS เริ่มต้นจากการนำเสื้อเชิ้ตสีขาวมาเลาะรูปทรง และรังสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่จากผ้าชิ้นเดิม Non-linear Creative Process ถือเป็นการเปิดโอกาสทางความคิดให้เหล่าทีมดีไซเนอร์