เป็นเวลา 15 ปีแล้ว หลังจาก “HELLBOY” ปรากฏตัวครั้งแรกบนจอภาพยนตร์ ทางผู้อำนวยการสร้างลอว์เรนซ์ กอร์ดอน และ ลอยด์ เลวิน รู้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องนำแฟรนไชส์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์นี้กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชั่นที่ดิบเถื่อน และน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิมในระดับ Rate-R เช่นเดียวกับต้นฉบับคอมิคที่ ไมค์ มิกโนล่า ได้สร้างเอาไว้
และเมื่อถึงช่วงที่ต้องตัดสินใจเรื่องพล็อต ทางทีมสร้างต้องเผชิญหน้ากับเนื้อหาจำนวนมหาศาล เนื่องจาก Hellboy เป็นคอมิคซีรีย์ที่ดำเนินมายาวนานกว่า 20 ปี จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าพวกเขาจะใช้เนื้อหาของคอมมิคในฉบับที่ 9 ที่ตีพิมพ์ในปี 2010 The Wild Hunt ซึ่งเป็นการรวมเอา Hellboy ฉบับที่ 37 จนถึง 44 อันเป็นเส้นเรื่องที่เผยถึงต้นกำเนิดอันยิ่งใหญ่ของ Hellboy มาสร้างเป็นภาพยนตร์
เพื่อทำให้เป็นหนังที่โดดเด่นในด้านความสยองขวัญระดับ Rate-R เหล่าผู้อำนวยการสร้างรู้ว่าพวกเขาต้องการผู้กำกับที่เหมาะสมและมีประสบการณ์ แล้วพวกเขาก็ได้พบกับผู้กำกับที่มีคุณสมบัติครบถ้วน อย่าง “นีล มาร์แชล” ผู้กำกับที่เคยกำกับซีรีย์บล็อกบัสเตอร์ของช่อง HBO อย่าง Game of Thrones และ Westworld รวมถึงภาพยนตร์ “The Descent” หนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ 21
เช่นเดียวกับที่ทีมสร้างต้องหานักแสดงที่มีบุคลิกน่าเกรงขาม มีอารมณ์ขัน และที่สำคัญต้องเป็นคนร่างใหญ่เพื่อมารับเป็นบทเป็นเฮลล์บอย ฮีโร่สุดล่ำผู้ถูกอัญเชิญขึ้นมาจากขุมนรก ก่อนที่พวกเขาจะเห็นตรงกันว่าไม่มีใครเหมาะสมกับบทบาทนี้มากไปกว่า “เดวิด ฮาร์เบอร์”
ฮาร์เบอร์ เผยว่ารู้สึกชื่นชอบในตัว Hellboy ในแง่ฮีโร่ที่ไม่สมบูรณ์แบบและมีความขัดแย้งอยู่ภายในจิตใจ “ผมไม่สนใจบทของซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำแต่สิ่งดี ๆ ครับ ผมชอบตัวละครที่อยู่คั่นกลางระหว่างความดีกับความชั่ว ความรู้สึกการเป็นคนนอกคอกของ Hellboy คือสิ่งน่าดึงดูดสำหรับผมครับ เขาเป็นคนแปลก ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเพราะผมก็เคยรู้สึกเช่นนั้น และผมคิดว่าทุกคนก็เคยมีความรู้สึกเช่นนั้นด้วย ไม่มีใครบนโลกนี้ที่เป็น ‘ปกติ’ ตลอดเวลา นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงชื่นชอบเขาครับ”
“เขาจะกอบกู้โลก ด้วยความมันส์จากนรก” Hellboy เฮลล์บอย” : 11 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์