เพื่อเป็นการเซเลเบรท 8 ปีแห่งความสำเร็จของ MITH แบรนด์จึงได้เผยโฉมน้ำหอมกลิ่นพิเศษ “Golden Sparkle” ขึ้น พร้อมเปิดตัวน้ำหอมแบรนด์ใหม่ PRANN ในงาน MITH – PROAD – PRANN ที่จัดขึ้นไม่นานมานี้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
จุติณัฏฐ์ ปิยวีรวงศ์ เจ้าของแบรนดน้ำหอม MITH ที่ได้รับการรังสรรกลิ่นจากนักปรุงน้ำหอมระดับโลก กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณเพื่อพัฒนาให้สินค้ามีคุณภาพ เพราะเชื่อว่าสินค้าที่มีคุณภาพคือหัวใจของแบรนด์ และเมื่อสินค้ามีคุณภาพและแข็งแรง จะสามารถทำการตลาดด้วยตนเองผ่านการบอกต่อปากต่อปาก การใช้จริง เพราะยั่งยืนเห็นผลที่สุด ซึ่งต่างจากการทุ่มเงินไปกับการโปรโมทเพื่อสร้างกระแส แต่เราต้องการให้ product ของเราไม่เพียงแค่ผ่านตา แต่ต้องเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคให้ได้ เราจึงได้ตอกย้ำการรับรู้และแทนคำขอบคุณผู้บริโภคด้วยสินค้าและแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกันในวันนี้
โดยไฮไลท์ของงานในครั้งนี้คือการเปิดตัวแบรนด์น้ำหอมใหม่ระดับ Luxury Line ที่รังสรรขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟให้กับลูกค้า เป็นสุดยอดโปรเจคที่รวมนักปรุงน้ำหอมที่เก่งที่สุดและต้องมีตำแหน่ง master perfumer มาร่วมสร้างสรรค์น้ำหอม 8 กลิ่นใหม่ให้กับแบรนด์ PRANN “เราตั้งใจ ใส่ใจ และทุ่มเทให้กับโปรเจคนี้เป็นอย่างมากและใช้เวลากว่า 2 ปี เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเราจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ที่สะท้อนถึงความหรูหรา ทรงคุณค่า คู่ควรแก่ราคา ผ่านทั้งน้ำหอมที่เป็นอัตลักษณ์ ความงดงามของบรรจุภัณฑ์ทั้งขวดและแท่นวาง ซึ่งเราได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีว่าเมื่อลูกค้าตัดสินใจที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้าในราคาเกือบ 8,000 บาท จะทำอย่างไรให้เขาได้รับสิ่งที่คุ้มค่ากว่าราคาที่ได้จ่ายไปเสมอ” จุติณัฏฐ์ เล่าถึงที่มาของความพิถีพิถันจนเกิดเป็น PRANN
ทั้งนี้ เพื่อสร้างการจดจำและขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ แบรนด์จึงได้เลือก “สายป่าน-SP Saypan” KOL ระดับแถวหน้าของไทยมาเป็น brand ambassador เพราะนอกจากจะเป็นลูกค้าของแบรนด์ MITH และ PROAD มานานแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่พิถีพิถันในการเลือกสรรสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ตนเองเสมอ ซึ่งตรงกับ DNA ของ MITH-PROAD-PRANN ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
“ความสำเร็จของ MITH คือการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งวัดได้จากการได้ร่วมงานกับ Perfumer ที่มีฝีมือระดับโลก จากการที่พวกเขาให้เกียรติมาร่วมงานกับเรา แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ไทยเล็กๆ แต่สามารถรวบรวมคนที่เก่งที่สุดในโลกมาได้เยอะที่สุดไม่แพ้แบรนด์ระดับโลก ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก สำหรับการต่อยอดความสำเร็จสู่อนาคตนั้น เราจะไม่หยุดพัฒนาเรื่องคุณภาพของสินค้า ทางแบรนด์จะพยายามเรียนเชิญผู้ปรุงท่านอื่นๆ มาค้นคิดกลิ่นใหม่ๆ ให้มากขึ้น และจะตั้งใจเป็นผู้นำเทรนด์ สร้างเทรนด์ให้สำเร็จมากกว่าในปีต่างๆ ที่ผ่านมา สำหรับเป้าหมายปี 2567 คือการขยายสาขาไปต่างจังหวัด เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงของผู้บริโภค และขยายเรื่องตัวแทนในต่างประเทศเพื่อการส่งออกสินค้าได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน” จุติณัฏฐ์ กล่าวสรุป