สุข-บำบัดแบบองค์รวม ห่างไกลจากมะเร็ง โดย น.พ.โทมัส โลดี้

Browse By

หากผู้คนส่วนใหญ่ไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมหรือวิธีการดำเนินชีวิตประจำวันในการหยุดการสร้างมะเร็ง ถึงแม้ว่าคุณหมอจะมีความชำนาญแค่ไหนก็ตาม ในที่สุดแล้วคุณก็สามารถกลับมาป่วยเป็นมะเร็งได้อีก ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้ขึ้นกับว่าคุณจะกำจัดมะเร็งได้อย่างไร แต่อยู่ที่ว่า คุณจะหยุดสร้างมะเร็งได้อย่างไรต่างหาก

นายแพทย์โทมัส โลดี้ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์เชิงบูรณาการจาก โอเอซิส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบำบัดมะเร็งแบบผสมผสานกว่า 20 ปี ที่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกับแนวทางธรรมชาติบำบัด ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ภายใต้ 3 เสาหลักในการรักษา ประกอบด้วย การหยุดก่อมะเร็ง, การมุ่งเป้าที่มะเร็ง, และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อวางรากฐานให้กับกระบวนการรักษาแผนใหม่ ในเชิงการป้องกัน บำบัดและให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูสุขภาพที่ดี แทนที่จะเพียงแค่รอให้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งแต่เพียงอย่างเดียว โดย น.พ. โทมัส โลดี้ ได้แบ่งปันความเป็นจริงเกี่ยวกับ “สุข-บำบัดแบบองค์รวม ห่างไกลจากมะเร็ง” ซึ่งในปัจจุบันการใช้ชีวิตของคนเราทำให้มีอัตราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะมาจากพันธุกรรมเท่านั้น ซึ่งเรามีแนวทางแบบบูรณาการที่ครอบคลุมในการดูแลโรคมะเร็ง การรักษา และการบำบัด ประกอบด้วย

โภชนาการและอาหารเสริม : ปัจจัยที่สำคัญสุดในการใช้ชีวิตคืออาหาร เราควรได้รับสารอาหารจากธรรมชาติโดยตรง โดยไม่ผ่านการปรุงแต่งซึ่งจะเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ เพราะอาหารที่มีการปรุงแต่งจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมี เมื่อนำพาเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ร่างกายของเราได้รับการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ก่อให้เกิดโรคได้  เราต้องเข้าใจว่าอะไรคืออาหารของมนุษย์  และเราควรกินอย่างไร  แต่การกินของเราส่วนใหญ่แล้ว เรากินตาม culture ไม่ใช่ nature จึงก่อให้เกิดปัญหากับร่างกาย ดังนั้น การรับประทานอาหารที่ถูกต้องสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดเซลล์มะเร็งได้

ภูมิคุ้มกันบำบัด : มะเร็งเป็นสิ่งที่ยากในการรักษา เพราะเซลล์มะเร็งมีกลไกในการป้องกันตัวและหลอกภูมิคุ้มกันร่างกายให้ไม่สามารถเข้าไปทำลายตัวมันได้  เพราะฉะนั้น การส่งเสริมเซลล์ภูมิคุ้มกันเพื่อให้สามารถผ่านเกราะป้องกันเซลล์มะเร็งเพื่อเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งได้สำเร็จ เราจึงได้คัดเลือกสารสกัดเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายในผู้ป่วย อาทิเช่น GCMAF เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย (GC = โปรตีน, MAF= กลไกการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว)  มีหน้าที่ในการกำจัดเซลล์ผิดปกติอันได้แก่ เซลล์มะเร็ง และมีหน้าที่ในการจดจำสิ่งแปลกปลอมที่ปะปนมากับเซลล์ และผลิตภูมิคุ้มกันมาทำลายเซล์มะเร็งนั้น เป็นต้น

การบำบัดทางกายภาพ : เป็นการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย เช่น การออกกำลังกาย, การส่งเสริมการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง และการดีท้อกซ์แบบทำความสะอาดภายในอวัยวะของร่างกาย อวัยวะภายในร่างกายที่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกมากที่สุดคือลำไส้ เพราะมีหน้าที่ในการดูดซึมอาหาร เมื่อเรากินอะไรที่ไม่ดีเข้าไป ส่งผลให้ลำไส้ดูดซึมสิ่งไม่ดี และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันส่งไปที่ตับ ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักกับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา (ภูมิคุ้มกันก็จะต่ำ) ดังนั้นการสวนล้างลำไส้จึงช่วยในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกไป พร้อมกับช่วยให้ภูมิคุ้มกันกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นเรายังต้องปรับต้นเหตุของสุขภาพที่เกิดจากการรับประทานอาหารด้วยโปรแกรม Green Juice,  Raw Food หรืออาหารมังสะวิรัติบ้าง เพื่อปรับค่าความสมดุลของร่างกาย เรามีวิธีการที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงด้วยการให้สารอาหาร อาทิ เกลือแร่ วิตามินซี เพื่อให้มีกำลังและการเสริมสร้างภูมิมีประสิทธิภาพที่ดี

การบำบัดทางด้านจิตใจ : การเยียวยาทางอารมณ์และจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ผู้ป่วยอยู่ในความสงบนิ่ง มีความหวัง มีสติอยู่กับโปรแกรมการบำบัดรักษา และยังสามารถเชื่อมโยงระหว่างสภาวะทางจิตใจกับระบบภูมิคุ้มกันของเรา ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ หากเราเข้าใจถึงผลของความเครียดที่มีต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราและหน้าที่สำคัญอื่นๆ ในร่างกาย นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการทำสมาธิ โยคะ การฝึกลมหายใจ ตลอดจนการนอนหลับอย่างไรให้มีสุขภาพที่ดีพร้อมด้วยคุณภาพ และชั่วโมงการนอนที่สอดคล้องกับวัยในแต่ละช่วง ถ้าจะให้สมบูรณ์แบบควรนอนให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมง แต่ละวัยต้องการจำนวนการนอนจะไม่เท่ากัน ชั่วโมงการนอนของเด็ก 11 – 13 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 7 – 8 ชั่วโมง เป็นต้น รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ หรือ toxin เช่น การพาร่างกายเข้ารับการบำบัดจากพลังของธรรมชาติด้วยการอาบป่า (Forest Bath), การเดินป่า ออกสัมผัสดิน-หญ้า หรือไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ชอบเที่ยวต่างจังหวัด โดยให้ธรรมชาติเข้ามาช่วยบำบัดเยียวยารักษาร่างกายและจิตใจ หรือซึมซับธรรมชาติให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับร่างกายผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ซึ่งเกี่ยวโยงโดยตรงกับสภาพแวดล้อมของร่างกาย เช่น อากาศ อุณหภูมิ กลิ่น และเสียง เป็นต้น

ดังนั้น โปรแกรมการดูแลมะเร็งเฉพาะบุคคลโดย โอเอซิส อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ตระหนักถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล ด้วยการปรับแผนการรักษาให้เข้ากับผู้ป่วยแต่ละคนด้วยการทำงานเป็นทีม นำเสนอแนวทางในการป้องกัน การรักษาและการฟื้นตัวจากมะเร็ง โดยโปรแกรมทั้งหมดนั้นจะเป็นไปตามหลักการของเสาหลักในการให้การรักษาแบบเดียวกันนั้น

การป้องกันมะเร็ง : เป็นโปรแกรมสำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าจะเกิดมะเร็ง มีเซลล์ก่อนเป็นมะเร็ง มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง และ/ หรือ เพียงแค่ต้องการลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด

การรักษามะเร็ง : เป็นโปรแกรมสำหรับผู้ที่มีมะเร็ง และกำลังต้องการโปรแกรมการรักษาที่เข้มข้นและครอบคลุม เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของตน

การฟื้นตัวจากมะเร็ง : เป็นโปรแกรมสำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะทุเลาลงแล้ว ซึ่งได้รับการรักษาในแบบแผนปัจจุบัน (หรือแผนทางเลือก) และจำเป็นต้องชำระล้าง ฟื้นฟูการทำงานของภูมิคุ้มกัน และเรียนรู้ทักษะการดำเนินชีวิตที่จำเป็น เพื่อให้ปราศจากมะเร็ง

***เรามีแนวทางรักษากับมะเร็งเกือบทุกชนิด โดยไม่คำนึงถึงว่าจะอยู่ตรงตำแหน่งใดในร่างกาย ลักษณะของโรคและแนวทางการรักษายังคงเหมือนเดิม***

การรักษามะเร็งทางเลือก

จากงานวิจัย ในความจริงที่น่าเศร้าที่สุดอย่างหนึ่งของโลกทุกวันนี้ก็คือ คนส่วนใหญ่ที่เป็นป่วยมะเร็งจะเสียชีวิตจากการรักษาไม่ใช่จากการลุกลามตามธรรมชาติของโรค โอเอซิส อินเตอร์เนชั่นแนล มีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่จะคอยให้คำแนะนำได้ว่า เมื่อใดจึงจำเป็นที่จะต้องผ่าตัด, ใช้เคมีบำบัด, หรือการฉายรังสี (ถ้ามี), ด้วยอินซูลินบำบัดในปริมาณน้อย (Insulin Potentiated Therapy) นอกจากนี้ เรายังมีวิธีการให้ยาเคมีบำบัดแบบอ่อนๆ และตรงเป้ามากขึ้นโดยไม่สร้างความเสียหายจากผลข้างเคียง และเป็นการให้สารเคมีในปริมาณที่น้อยที่สุดเข้าสู่ร่างกาย

หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับคำปรึกษาหรือการเข้ารับการรักษาที่ โอเอซิส อินเตอร์เนชั่นแนล ติดต่อได้ที่อีเมล: contact@oasis.international และโทร: +66 (0) 92-460-5000