ไอคอนรูป วงกลมสีเหลืองกับลายเส้นเป็นหน้ายิ้มแฉ่ง ที่เรารู้จัก ในชื่อ สไมลีย์ (Smiley) กำเนิดขึ้นในปี 1972 โดยการออกแบบของ มร. แฟรงคลิน ลูฟรานี (Franklin Loufrani) นักข่าวนักหนังสือพิมพ์ ที่ทำไอคอนขึ้นมาใช้ในแคมเปญรณรงค์ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้ “หาเวลามาแจกยิ้ม” กันบ้าง (Take Time to Smile) และไอคอนหน้ายิ้มนี้ก็กลายมาเป็น ธุรกิจ ของครอบครัวลูฟรานี ซึ่งก่อตั้งบริษัท เดอะ สไมลีย์ คอมพานี ขึ้นมา และยึดเอา ความมุ่งหวังในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ และรอยยิ้ม แห่งความสุขเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ ( core value)

ผู้บริหารระดับโลกรุ่นที่สองของสไมลีย์ (Smiley)

มร. นิโคลาส์ ลูฟรานี (Nicolas Loufrani) ทายาทรุ่นสองของลูฟรานี ที่สืบทอดและพัฒนาธุรกิจหน้ายิ้มต่อจากผู้พ่อได้สังเกตเห็น การเติบโตในการใช้ asci emoticons ในยุคอินเตอร์เน็ตเริ่ม แพร่หลายและใช้ในการสื่อสารประจำวัน อีโมติคอนส์ที่แทนความ รู้สึกด้วยเครื่องหมายคั่นต่างๆ (punctuation marks) ในการส่งข้อความบนมือถือ แช็ตออนไลน์และทางอีเมล์ นิโคลาส์ ลูฟรานี จึงทดลองใช้ไอคอนหน้ายิ้ม สไมลีย์ ในการสื่อสารแทนความรู้สึก โดยการดัดแปลงไอคอนหน้ายิ้มเป็นใบหน้าแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆแทนข้อความ ก่อนที่จะมีการสร้างอิโมติคอนส์ในยุคต่อๆมา
ลูฟรานียังได้จัดทำ สไมลีย์ ดิคชันนารี หรือ พจนานุกรมภาษาภาพหน้ายิ้ม ( Smiley Dictionary) เป็นคู่มือ อธิบายความหมาย ของไอคอนสไมลีย์หน้าต่างๆ กว่าหลายพันไอคอน และเป็น ไอคอนสไมลีย์รุ่นแรกของโลก ที่ต่อมาได้รับการยอมรับในวงกว้างว่า เป็น ต้นแบบของการพัฒนา อิโมจิส์ (emojis) ไอคอนแทนความรู้สึกที่ เกิดขึ้นหลากหลายแทนคำพูดในปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ ประธานคณะผู้บริหารหรือ ซีอีโอ มร. นิโคลาส์ ลูฟรานี (Nicolas Loufrani) ได้ปฏิวัติผลงานภายใต้ชื่อ บริษัท เดอะ สไมลีย์ คอมพานี ให้กลายเป็นแบรนด์ของสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัทเดอะสไมลีย์คอมพานี ( The Smiley Company ) ได้ฉลองส่ง ปี 2017 ด้วยเรื่องราวดีๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยอดขายที่ทะลุเป้า แซงยอดปีที่ผ่านมาถึง 59 เปอร์เซ็นต์ กับตัวเลขรายได้ปี 2017 ที่สูง ถึง 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังได้เพิ่มลูกค้าที่จดทะเบียนใช้บริการสินค้าลิขสิทธิ์ (licensee) อีกกว่า 310 ราย รวมถึงการร่วมทุนในแบบจอยน์เวนเจอร์ (joint venture) กับคาแรคเตอร์ Rubik อย่างเป็นทางการ และได้มีพันธมิตรธุรกิจที่ได้เริ่มพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาดแล้ว ปัจจุบันแบรนด์สไมลีย์ มีที่ยืนโดดเด่นในแง่ตัวแทนของ วัฒนธรรมและวีถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ไม่เพียงการให้ลิขสิทธิ์ สินค้าของแบรนด์ (ไลเซ่นซิงส์) กับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ซึ่งได้เกิดผล งานสร้างสรรค์ทางศิลปะที่หลากหลายจาก อีโมติคอนส์ (จากโลโก้หน้ายิ้มหรือ สไมลีย์) แต่ยังกลายเป็นแบรนด์ที่มีความสำคัญในด้านการสื่อสารและภาษายุคใหม่ เพราะสไมลีย์ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบภาษาสื่อสารด้วยรูปภาพ จากการที่เราใช้อีโมติคอนส์ แสดงความรู้สึกและสื่อสารกันในชีวิตประจำวันปัจจุบัน

“จุดแข็งของสไมลีย์เวิลด์คือ ความเรียบง่ายและ(ไอคอน)เหล่านี้ มันถูกสร้างมาให้สามารถแปลงไปเป็นอะไรต่อมิอะไรได้อย่าง ง่ายๆ จากดีเอนเอที่เป็นการส่งต่อความสุขและคิดบวกของสไมลีย์ เราได้สร้างแพลตฟอร์มที่พิเศษยูนีคให้กับคนยุคปัจจุบันได้พัฒนา ด้าน อารมณ์ และการแสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านสินค้าหรือโปรดักท์ที่สร้างสรรค์ เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ซึ่งมันช่วยให้เราเชื่อมโยงกับลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้ด้วย” นิโคลาส์ ลูฟรานี ซีอีโอของ เดอะ สไมลีย์ คอมพานี กล่าว
ความร่วมมือกับแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำต่างๆ

Smiley ปักธงไทยแลนด์แดนยิ้มสยาม

พร้อมนำเทรนด์แฟชั่นและการสื่อสารความรู้สึกไลฟ์สไตล์แห่งความสุขมาสู่ตลาดค้าปลีกไทย สำหรับแบรนด์แห่งรอยยิ้มการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชิปในไทยแลนด์แดนยิ้มสยาม เป็นความสัมพันธ์ที่สดใส หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับพาร์ตเนอร์ธุรกิจมาทั่วโลก ทำให้สไมลีย์เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับพาร์ตเนอร์ด้วยกลยุทธที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้บริโภคแต่ละส่วน รวมถึงการร่วมกันพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละพาร์ตเนอร์ การร่วมมือกับซีพีเอ็น (บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด) ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำแนวคิด การพัฒนาโปรดักท์หรือโปรโมชันที่เหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ซึ่งทางสไมลีย์ตระหนักดีว่า แบรนด์ศูนย์การค้าในเครือซีพีเอ็นเป็นแบรนด์ไทยระดับไอคอนของประเทศและเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับภูมิภาค จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นก้าวใหญ่และหนักแน่นของสไมลีย์ในการขยายความร่วมมือธุรกิจกับพาร์ตเนอร์ผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ และสินค้าอีกหลากหลายประเภทในประเทศไทย ในอนาคตด้วย

ถึงแม้สถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจสินค้ากลุ่มไลเซนส์คาแรคเตอร์ที่ประเทศไทย ในปัจจุบันจะมีหลากหลายแบรนด์ระดับโกลบัลที่เข้ามาแชร์สัดส่วนตลาดไลเซนส์คาแรคเตอร์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความหลากหลายและขยายวงต่อเนื่อง ซึ่งสไมลีย์ไม่ใช่แบรนด์แรกที่เข้ามาลุยตลาดนี้ แต่จะเป็นแบรนด์น้องงใหม่ที่จะมาสร้างสีสันใหม่ให้กับตลาดคาแรคเตอร์ที่เริ่มอิ่มตัวมาสักพักแล้วได้แน่นอน สไมลีย์ไม่ใช่แบรนด์ที่ขายคาแรคเตอร์ อย่างค่ายดีสนีย์ มาร์เวลส์ ดีซีคอมมิคส์ หรือคาแรคเตอร์อื่นๆ แต่มีความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ตัวจริงเสียงจริง ที่ไม่ได้มาเพื่อเป็นคู่แข่งกับไลเซนส์คาแรคเตอร์ที่มีอยู่ แต่สไมลีย์มุ่งจะนำ “เทรนด์ แฟชั่นและความรู้สึก “ฟีลกู้ด” มาสู่ ตลาดและกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ด้วยพันธกิจในการดึงตลาดประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติสู่ไลฟ์สไตล์ที่มีความสุข
การดำเนินธุรกิจแบบ Co-create ในการสร้างคอนเทนท์ร่วมกัน ระหว่างสไมลีย์กับพาร์ตเนอร์ เป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จ มาตลอด ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจที่ทำแคมเปญโปรโมชันในงานเปิด ตัว ภาพยนตร์ ซีรีส์ทีวีหรือกระทั่งการเปิดตัวสินค้าใหม่ต่างๆ ที่ สไมลีย์ ไอคอนหน้ายิ้มเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างโปรดักท์กับลูกค้า กลุ่มเป้าหมาย แต่แบรนด์สไมลีย์จะปักหลักอยู่ในห้างร้านตลอด 365 วัน ที่เจาะถึงลูกค้าทุกเพศทุกวัยในกลุ่มครอบครัว

พบประสบการณ์ยิ่งใหญ่ ในแคมเปญส่งท้ายปี จาก Smiley และ CPN

สไมลีย์และซีพีเอ็น พร้อมเปิดพาร์ตเนอร์ชิป ทั้งในสโตร์และการสร้างแคมเปญโปรโมชันสำหรับอีเวนท์ ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี แนวคิดหลักของโปรโมชันนี้คือการนำความสุขสนุกสนานมาสู่ลูกค้าและ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเยือนศูนย์การค้าในช่วงเทศกาลแห่งความสุข สนุกสนานที่สุดในรอบปี

ที่มาของความร่วมมือระหว่าง Smiley และ CPN

เริ่มต้นจาก สไมลีย์ได้มีโอกาสนำเสนอคอนเซปต์อีเวนต์เคาต์นดาวน์ประจำปี ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สำหรับศูนย์การค้า ในเครือของซีพีเอ็น ซึ่งคอนเซปต์อีเวนต์ที่นำเสนอได้เป็นที่ประทับ ใจ และตอบโจทย์การทำแคมเปญของทางศูนย์การค้าเป็นอย่างดี ทางซีพีเอ็นจึงตัดสินใจจัดแคมเปญโปรโมชันร่วมกับสไมลีย์ใน 31 ศูนย์การค้าของเครือซีพีเอ็นทั่วไทย รวมถึง เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัลพลาซ่า ด้วยแนวคิดหลักของแคมเปญโปรโมชัน : เวิลด์ออฟแฮปปิเนส (World of Happiness)

สไมลีย์และซีพีเอ็น เป็นพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมกันอย่างที่สุด เป็นพันธมิตรธุรกิจที่ร่วมกันแชร์ปรัชญาอารมณ์ดีมีความสุข ความร่วมมือในแคมเปญสร้างสุขส่งท้ายปีนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะชูจุดแข็งในธุรกิจของทั้งสองฝ่าย และเป็นการสร้างสรรค์ผลงานยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะมาร่วมส่งความสุข ความประทับใจในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ตามพันธกิจสำคัญของทั้งสองในการมอบความสุขแก่ลูกค้าอย่างไม่เหมือนใครด้วย