คุยชิลล์ๆ ฟังเพลินๆ แบบได้ความรู้…เรื่อง Fat Transfer กับคุณหมอเจี๊ยบ

Browse By

เรื่องความสวยนอกจากจะรอกันไม่ได้แล้ว ยังต้องคอยดูแล เติมแต่ง บำรุงกันอยู่ตลอดเวลา เกิดเป็นผู้หญิงมันไม่ยาก แต่จะเป็นผู้หญิงที่สวยและดูดีอยู่เสมอก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเนอะ  และในโอกาสที่ได้คุยกับคุณหมอเจี๊ยบคนสวย ก็มีโอกาสได้ถาม ได้พูดคุยเรื่องเติมความสวยกันซะหน่อย  และเรื่อง Fat Transfer ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและเป็นตัวเลือกที่ดีของสาวๆ ด้วยนะ เราไปฟังจากปากคุณหมอกันเลยค่ะ

รบกวนคุณหมอแนะนำตัวเองกับสาวๆ Zoominstyle หน่อยค่ะ
ชื่อ แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล หรือหมอเจี๊ยบค่ะ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามประจำ มิเนอร์วาคลินิก ตั้งแต่เรียนจบที่แพทย์รามา หมอใช้ทุนแล้ว ที่วอร์ดเด็กที่โรงพยาบาลของ มศว. เพราะว่าตอนนั้นอยากเป็นหมอเด็ก หมอชอบเด็ก ๆ แต่พอเป็นหมอเด็กจริงๆ ปัญหาที่พบคือเด็กป่วย ไม่ใช่เด็กน่ารักๆ ที่เราชอบเล่นแล้วพอพบเด็กป่วยเยอะๆ ก็จะรู้สึก depress ค่ะ พ่อแม่เด็กส่วนใหญ่เขาจะกังวลมาก หมอเลยย้ายฟิลด์มาเป็นด้านความงาม

คุณหมอเป็นคนที่ชอบความสวยความงามอยู่แล้วด้วยมั้ยคะ
ความสวยงามก็ชอบมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าคุณแม่เป็นคนชอบดูแลเรื่องความสวยงาม คุณแม่จะเป็นคนดูแลไม่ให้โดนแดด จะดูแลผิวเราตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นเราก็จะรักสวยรักงามมาตั้งแต่เด็กตามคุณแม่ ซึ่งตอนนี้ก็ทำงานที่คลินิกจะดูแลเรื่องผิวพรรณและความงามโดยไม่ศัลยกรรมเป็นหลัก จะมีทั้งโบทอกซ์ ฟิลเลอร์ เลเซอร์ ทรีทเมนท์ โดยไม่ศัลยกรรม ล่าสุดจะมี aggressive หน่อยก็จะเป็นการดูดไขมันค่ะ

ที่คุณหมอบอกไว้ คือ Fat Transfer ใช่มั้ยคะ
ใช่ค่ะ สำหรับ Fat transfer จะเป็นการย้ายไขมันของเราเองไปใส่ในบริเวณที่จำเป็น เช่น บางคนเมื่อมีอายุมากขึ้น ไขมันที่บริเวณขมับหรือว่าร่องแก้มโลเวอร์ชีท มันยุบลง มันหายไป เพราะฉะนั้นเราต้องการ full up ขึ้น เมื่อก่อนยังไม่มี fat transfer ก็จะใช้ฟิลเลอร์เติม เติมใต้ตา เติมร่องแก้ม ตอนนี้คนใช้จะ concern มากเรื่องความปลอดภัย ว่าเอาอะไรมาใส่ แล้วการใส่ fat ตัวเองเป็นอะไรที่ปลอดภัยที่สุดเพราะเป็นไขมันของเราเอง เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเพราะว่า เป็นการเอาไขมันจากส่วนอื่นที่เราไม่อยากได้ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพกด้านหลัง เอว ตรงปีกเอว เอามาใส่ได้

แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นศัลยกรรมค่ะ
ด้วยความที่หมอไม่ได้ใช้เครื่องเลเซอร์ ไม่ได้มีการวางยาสลบ ทุกอย่างใช้แค่ยาชา แล้วดูดออกมาในปริมาณน้อยมาก ไม่ได้มากเหมือนเราดูดเวเซอร์ออกมาเป็นลิตร ๆ อันนั้นคือดูดเพื่อการรักษา แต่ของเราดูดเพื่อมาเติม เวลาเราเติมฟิลเล่อร์ร่องแก้ม ส่วนมากใส่ข้างละ 0.5 -1 ซี.ซี อย่างมากก็อาจจะ 2 ซี.ซี. สมมติว่าถ้าเราจะเอามาใส่ร่องแก้ม คนไข้เคสนี้เรา plan ไว้แล้ว เติมร่องแก้ม เติมใต้ตา ยกหน้า lift ขึ้นนิดหนึ่ง ทั้งหมดอาจจะใช้แค่ 10 ซี.ซี. การดูดออกมาแต่เราต้องเผื่อไว้ด้วย ต้องดูดแล้วมาปั่นแยกชั้น เอาไขมันที่ยัง live อยู่ ย้ายมาใส่ เพราะเวลาเราดูดออกมาจะมีทั้งไขมันที่ dead และ alive ที่ยังมีชีวิต แต่ที่เราย้ายมาต้องเป็นไขมันที่มีชีวิต เพื่อว่าเมื่อย้ายมาแล้วจะอยู่ได้นาน จึงต้องดูดมาเผื่อไว้ เราปั่นแล้วแยก แล้วใส่เข้าไป ก็จะดูดแค่ 100 ซี.ซี. ซึ่งไม่มากเลย ใช้เวลาไม่นาน ดูดเป็นแบบไม่ได้ใช้ฮีท ไม่ได้ใช้เครื่อง เพราะฉะนั้นเป็นวิทยาศาสตร์ เป็น local area

ความแตกต่างกับการดูดแบบอื่น
แต่ถ้าเป็นการดูดเพื่อทิ้งเลย ก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง ก็ทำได้เหมือนกัน คนไข้บางคน concern เรื่องการดูดไขมัน แล้วผิวเป็นคลื่น ต้อง trans มีน้ำไหลออกมาหลังจากนั้นพักฟื้น ปกติถ้าดูดไขมันเราต้องใส่ยาชาเยอะมาก เมื่อดูดเสร็จจะบวมน้ำ มีพันผ้า แต่ Fat transfer ไม่ได้ใส่ยาชาเยอะขนาดนั้น แผลจะเล็กมาก แต่ด้วยความที่ไขมันมันใหญ่ เข็มที่จะใช้ใหญ่กว่าเข็มฟิลเลอร์ เพราะฉะนั้นบริเวณหน้าถ้าเป็นฟิลเลอร์ไม่บวมแน่นอน แต่ถ้าเป็น Fat transfer อาจมีบวมนิดหน่อย 1-2 วัน

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาจะเติมจุดไหนมากที่สุดคะ
ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเติมมากที่สุดคือบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผาก ปัจจุบันเป็นเทรนด์ที่ของคนชอบให้มีหน้าผากนูนๆ เพราะว่าส่วนมากคนไข้ผู้หญิงจะจมูกสวยแล้ว แม้ว่าบางคนทำศัลยกรรมมาแล้ว ประเด็นคือทุกคน concern เรื่องจมูกกันมาก พอมีจมูกแต่ข้างบนมันไม่ตาม ก็จะดูหน้าแบนแบบพุ่งมาแต่จมูก ตอนนี้คนก็จะ concern เรื่องหน้าผากกับคาง ไขมันก็เสริมคางได้ให้ดูยาวขึ้น หน้าจะได้ balance กัน

อายุเท่าไหร่คะถึงจะทำ Fat Transfer ได้
โดยทั่วไปคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป บรรลุนิติภาวะสามารถทำได้ อายุสูงสุดที่หมอเคยทำ คือ 60 ปี ทุกวันนี้คนอายุ 60 ปี ยังดูสาวอยู่ การเติมเพื่อให้ใบหน้าดูเต็มขึ้น การทำในคนสูงอายุจะต้องดูด้วยว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ ถ้าไม่มีโรคประจำตัวก็ทำได้ มันเป็นแค่ Minor มาก ข้อจำกัดคือไม่แนะนำสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง ระหว่างทำแล้วมีความรู้สึกเจ็บขึ้นมา Heart rate หัวใจเขาเต้นเร็วจะมีอันตรายได้ เพราะว่าเราแค่ฉีดยาชา ดังนั้น โรคความดัน โรคหัวใจ เบาหวาน อย่างเบาหวาน บางทีเราไม่ทราบว่าเขาคุมน้ำตาลได้ดีแค่ไหน หากระหว่างทำน้ำตาลในเลือดเกิดต่ำ แล้ววืดเป็นลมไป แต่เรานึกว่าเขาหลับ ส่วนมากก็จะเช็คก่อน แต่โดยทั่วไปคนที่มาทำก็ค่อนข้างแข็งแรงปกติ การพักฟื้นสำหรับการทำแบบนี้ บริเวณที่ดูดแทบไม่ได้พักฟื้นเลย เพราะว่ารูเจาะมันน้อยมาก แต่บริเวณหน้าหลังจาก ทำแล้วอาจมีบวมประมาณ 2 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคน 1 วัน บางคน 3 วัน

ที่ผ่านมากระแสตอบรับเป็นยังไงบ้างคะ
สำหรับการทำวิธีนี้ ถือว่าดีค่ะ เพราะว่าคนอยากทำ คนไข้ concern เรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นไขมันของตัวเอง อีกประการหนึ่งเรื่องราคา เมื่อเทียบการเติมฟิลเลอร์ทั้งหน้า ร่องแก้ม คาง เมื่อรวมราคากันแล้วจะมากกว่าการเอาไขมันตัวเองย้ายออกมา อย่างฟิลเลอร์ 1 ซี.ซี. ราคาอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 20,000 บาท สมมติเราเติมร่องแก้ม เติมทั้งหน้า ถ้าเป็นหน้าผากก็จะใช้ฟิลเลอร์เยอะ ราคาอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

Fat Transfer อยู่ได้นานแค่ไหนคะ
ระยะเวลาของไขมันที่เราใส่ไว้ ผ่านไป 1 ปี จะ drop ลงประมาณ 30 % ถ้าเกิน 1 ปีแล้ว ส่วนที่ยังเหลือเท่าไหร่ แปลว่าโอกาสที่เขาจะอยู่นานก็มีสูง เราจะดูได้หลังจาก 1 ปี หรือบางคนอาจจะเว้น 6 เดือน หรือ 1 ปี แล้วมาเติมอีกทีก็ได้ สามารถเติมได้เรื่อยๆ การทำ Fat transfer กับฟิลเลอร์ ไม่เหมือนกัน แต่ก็ไปด้วยกันได้

ให้คุณหมอฝากถึงคนที่อยากมาทำ Fat Transfer หน่อยค่ะ
หมออยากฝากบอกคนที่สนใจไม่ว่าบริการใดๆ ก็ตาม สามารถมาปรึกษาหมอได้ที่นี่โดยตรง เพราะว่าที่นี่ดูแลด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงคนเดียวอย่างต่อเนื่อง ไม่มี clinic chain ที่มีแพทย์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะฉะนั้นทุกคนมาได้เจอหมอเจี๊ยบแล้วก็ทำกับหมอเจี๊ยบ แล้วก็ consult โดยหมอที่ไม่มี sale มาตื๊อขายคอร์สให้คนไข้ลำบากใจ หมอจะพูดคุยตามจริงว่าทำแล้วได้แค่ไหน แนะนำสิ่งที่เหมาะสมให้ บางคนมาแล้วอยากได้อีกอย่างหนึ่ง แต่เราดูแล้วไม่เหมาะนะ ก็จะแนะนำ ว่าอะไรเหมาะที่สุดให้ ก็จะดูแลพูดคุยไปด้วยกันค่ะ

ปัจจุบันมิเนอร์วา คลินิก อยู่ที่ชั้น 2 สยามพารากอน โทร. 02-610-9636 , 02-610-9397 ,
086-348-4116 , ID Line : minervaclinicsiam ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก www.minervaskinclinic.com