ปัจจุบันนี้การออกกำลังกายเป็นเรื่องใกล้ตัวเพราะหนุ่มสาวๆ ในยุคนี้หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และโยคะก็เป็นการออกกำลังที่มีคนเลือกเป็นอันดับแรกๆ ครั้งนี้ Zoominstyle เลยจะพาไปรู้จักกับคุณครูคนสวย แห่ง มันตรา โยคะ ที่บอกเลยว่ากว่าจะเป็นครูลิตา วรนิษฐ์ คุณครูคนสวยที่มีลูกศิษย์มากมายแบบนี้ กว่า 10 ปีในวงการนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
ก่อนหน้านี้ทำอะไรมาก่อนบ้างคะ
ก่อนหน้านี้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของสิงห์คอปอเรชั่นค่ะ คือ ประกวดกัน 76 จังหวัด ได้ที่ 1 เราเป็นแอมบาสเดอร์ทำงานกับสิงห์ได้ประมาณ 5 – 6 ปี ระหว่างทำงาน พี่ๆ ก็บอกไปออกกำลังกายนะ เพราะเรากินขนมเยอะ มันทำให้เกิดเซลลูไลท์ ก็เลยไปฟิตเนส แล้วคนมันเยอะ มีคนมาคุยโน่นนี่นั่น เรารู้สึกว่าไม่ค่อยชอบ ก็เลยไปลองโยคะดู ซึ่งพอได้ไปเข้าคราสโยคะ โทรศัพท์ก็ห้ามเอาเข้า แล้วฝึกในนั้นหนึ่งชั่วโมงครึ่ง พอออกมาปุ๊บ รู้สึกว่ามันเหนื่อยก็จริง แต่มันไม่ต้องใช้โทรศัพท์ คือมันอยู่กับตัวเองจริงๆ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลงรักไปเลยจ้า หลงรักโยคะ มันได้โฟกัสกับตัวเองจริงๆ เพราะว่าทุกวันเราทำงาน เราเดินบางทีสติไม่อยู่กับตัวเลย พอฝึกโยคะ อยู่กับตัวเองจริงๆ มองอย่างนี้จริงๆ ก็เลยชอบ
เล่นเองมานานแค่ไหนกว่าจะได้เริ่มสนใจอยากเป็นครูโยคะ
เล่นเองประมาณปีกว่าๆ แล้วมันเป็นเรื่องบังเอิญที่เดินออกจากห้องโยคะปุ๊บ เราเหนื่อยก็เลยนั่งแล้วหันไปมองเห็นป้ายว่า เปิดคอร์สครูโยคะภาษาไทยครั้งแรก เราก็เรียนแล้วฝึกเองที่บ้าน ตอนนั้นไม่มีความคิดเลยนะคะว่าจะได้เปิดสอนแบบจริงจัง ไม่มีความคิดนั้นเลย คิดว่าไปทำงานจะได้ฝึกเองได้ แล้วพอไปเรียนมันเป็นคอร์ส 200 ชั่วโมง พอเรียนเสร็จปุ๊บก็มีคนเรียกไปออดิชั่น เราก็ลองไปดู เป็นประสบการณ์ ออดิชั้นนี้หมายถึงไปสอนให้เขาดู ว่าเราสอนได้ไหม พอลองไปสอน นักเรียนที่นั่นเกิดชอบมาก เราก็รู้สึกดี เราก็เลยทำต่อไปเรื่อยๆ มันคือความรู้สึกที่เราชอบแบบนี้
แล้วมี studio เป็นของตนเองเมื่อไหร่คะ
เมื่อสองปีที่แล้ว คือพอเริ่มสอนไปได้ประมาณ 3-4 ปี ก็เริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นๆ เราก็ไปเรียนเพิ่ม เหมือนชั่วโมงเราได้ ในการทำหลักสูตรของการสอนโยคะ เราก็ส่งไปที่อเมริกาเพื่อจะทำหลักสูตรอันนี้ ให้คนที่อยากเป็นครูมาเรียน คือจะเป็นครูโยคะได้ คือต้องมีประสบการณ์การสอนสองพันชั่วโมง มีเรียนเทรนนิ่ง หนึ่งพันชั่วโมง แล้วก็ต้องส่งหลักสูตรไปอเมริกา ต้องมีใบรับรองด้วยค่ะ ครูมี 2 certificate ของโรงเรียนนะคะ มี world yoga alliance ของอินเดีย และ Yoga alliance ของอเมริกา
ณ วันนี้ โยคะที่ครูสอนเป็นแนวไหน
เขาเรียกแนว Vinyasa หฐ ที่ไม่ใช่มือนะ มันเหมือนกับหยินหยาง พระอาทิตย์กับพระจันทร์ ร้อนกับเย็น เป็นภาษาฮินดิ คือ วินยาสะ แปลว่า โฟลว์” ทำท่า โฟลว์ไปเรื่อยๆ ต่อเนื่อง move ต่อเนื่อง ถ้าเป็น หฐ มันจะมีทั้งความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ความอ่อนตัวในขณะเดียวกัน แต่ท่าก็จะค้างนานหน่อย ค้างนานกว่า วินยาสะ เพราะ วินยาสะ มันต้องโฟลว์ตามลมหายใจไปเรื่อย ๆ ก็จะเหนื่อย หฐ ก็จะค้าง ถ้าถามว่าเหนื่อยกว่ากันมั้ย ถ้าคนที่ตึงก็จะเหนื่อยกว่า แล้วครูสอนในแนวที่บอกว่าใช้กล้ามเนื้อมากกว่าที่จะไปลงข้อต่อ เพราะเรียนกับฝรั่งเขาจะอิงเกี่ยวกับเรื่องอนาโตมี่มาก เราก็จะใช้หลักความเป็นจริงอันนี้มาสอนนักเรียน ซึ่งเดี๋ยวนี้คนออกกำลังกายเยอะ แล้วเกิดการบาดเจ็บมากขึ้น
โยคะเปลี่ยนชีวิตครูยังไง
โยคะ ในความคิดของครูมันคือสติอันดับแรกเลย เรื่องร่างกายมันดีโดยตรงอยู่แล้วเพราะเราใช้กล้ามเนื้อเต็มที่ แต่สิ่งแรกที่ชอบมากๆ คือ สติ คนเราบางทีใช้ชีวิตแบบขาดสติ แต่โยคะมันสามารถดึงตัวเองกลับมา แล้วคิดอะไรที่เป็นธรรมชาติ แบบเข้าใจโลกมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนเราเคยเป็นคนที่ใจร้อนมากๆ เดี่ยวนี้ก็จะเริ่มมีสติมากขึ้น เริ่มมีวิธีคิดที่แบบ อ๋อ อันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันเหมือนกับเป็นการสอนตัวเองโดยอัตโนมัติเลย ทำให้ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบเย็นลง และมีความสุขมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ปิดท้ายด้วยอีเวนท์ใหญ่ Hero in Action ฝึกโยคะบนดาดฟ้า พร้อมดูพระอาทิตย์ตกดินไปกับฮิโระ ครูสอนโยคะชื่อดังจากอเมริกา
Hero in Action เป็นอีเวนท์ที่จัดขึ้นเพื่อหาทุนไปให้เด็กด้อยโอกาสที่ภาคเหนือ งานจัดวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ Hotel Once Bangkok เริ่ม 5 โมงเย็น เราจะมี การฝึกโยคะกับครูฮีโร่ ซึ่งเป็นครูโยคะชื่อดังมาจากอเมริกาโยเรามองว่าสตอรี่เค้าน่าสนใจ คือเมื่อก่อนเขาเป็นหมอแล้วมันมีความกดดันสูง เช่น เขาบอกว่าถ้าเขาผิดพลาดแค่ 1 วินาทีก็สามารถทำให้คนตายได้เลย เขารับความเครียดตรงนั้นไม่ไหว เลยคิดว่าออกมาสอนโยคะน่าจะเหมาะกับตัวเองมากกว่า และตอนนี้คนฝึกโยคะเริ่มบาดเจ็บเยอะมากแล้ว เค้าจึงอยากเอาเทคนิคของเขามาบอกต่อ เพื่อให้คนฝึกโยคะแล้วไม่บาดเจ็บ ซึ่งเราก็ใช้เทคนิคของเขาด้วยเหมือนกัน แล้วมันก็เวิร์ค เราจึงคิดว่าอยากจะให้เค้ามาช่วยบอกต่อในจุดนี้ ค่ะ รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถาม Facebook: mantra yoga Bangkok
มีท่าฝึก Janusisana/ Camarasana หรือ Chakrikasana มาฝากกันด้วย ท่านี้ช่วยยืดลำตัวส่วนหลัง กระตุ้นลำไส้ช่องท้องให้ขับถ่ายดีขึ้น คลายสบัก คอ บ่า ไหล่ ก้น ขา และแก้ท่าด้วยท่ากงล้อ จะสบายหลังและสบักมากขึ้น ช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยนะคะ