Royal Enfield Apparel กลับมาพร้อมกับคอลเลกชันใหม่ล่าสุด Spring Summer 2024 โดยรวบรวมทุกความหลงใหลในวิถี Biker พร้อมนำเสนอแฟชั่นหลากหลายสไตล์ให้ผู้ขับขี่ได้สะท้อนจิตวิญญาณของการขับขี่ที่แท้จริง เปิดตัวครั้งแรกในกรุงเทพฯ ณ ห้องประชุมเบญจาศิริ ชั้น 5 โรงแรมโนโวเทล สุขุมวิท 20
Royal Enfield ก่อตั้งขึ้นในปี 1901 โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา Royal Enfield ไม่เพียงแต่นำเสนอรถจักรยานยนต์ที่ผลิตขึ้นอย่างสวยงามและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย แต่ยังได้สร้างตัวตนให้กับแบรนด์และผู้ขับขี่ในฐานะผู้ที่มีส่วนร่วมในชุมชน บ่งบอกถึงแบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มที่นิยมสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในหมวดเครื่องแต่งกาย Royal Enfield Apparel ก็มีส่วนเสริมตัวตนของแบรนด์และผู้ใช้ได้เด่นชัดไม่แพ้กัน
Royal Enfield Apparel คอลเลกชัน Spring-Summer 2024 นี้ แบ่งออกเป็น 3 ธีม ได้แก่ ‘Made Like A Gun, ‘Indie Ride’ และ ‘Motoverse’ ที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงมั่นคงพร้อมความสะดวกสบาย โดยให้ความสำคัญกับการแสดงตัวตนเหนือความสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันก็นำคุณค่าและเสน่ห์วิถีดั้งเดิมมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับอนาคต
‘Made Like A Gun’ นำเสนอรูปลักษณ์ที่สมบุกสมบัน ผสานความดิบ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ในยุคสมัยเอ็ดเวิร์ด (Edwardian era) ในช่วงปี 1900-1910 รวมถึงดึงเสน่ห์ของฮาร์ดแวร์รถมอเตอร์ไซค์คันแรกของ Royal Enfield และคลุมด้วยสีสันดั้งเดิมของแบรนด์ในโทนสีซีเปียและวินเทจ
‘Indie Ride’ นำเสนอเรื่องราวร่วมสมัยมากขึ้น โดยองค์ประกอบงานดีไซน์เน้นอารมณ์ ความสุขและความเฉียบแหลมคอลเลกชันนี้เฉลิมฉลองให้กับเสรีภาพในการสร้างสรรค์และการแสดงออก โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยรุ่นและตลาด GenZ
‘Motoverse’ สะท้อนการมีอยู่ของ ‘phygital’ โดยนำแนวคิดของ Motoscape กับ Cyber-Riding มารวมกัน เมื่อเทคโนโลยีในอนาคตผสานโลกแห่งความจริงกับโลกเสมือนมากขึ้นจนกลายเป็น Motoverse สิ่งนี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคอลเลกชันนี้ที่รวบรวมประสบการณ์การขับขี่ไฮบริดที่แตกต่างกัน การออกแบบจึงเน้นเส้นสีที่สะดุดตา ดึงความสนใจ ให้ความรู้สึกล้ำ
เกินจริง
นอกจากนี้ Royal Enfield Apparel ยังมุ่งมั่นเดินทางสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืน ที่นับเป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกาย โดยที่ผ่านมา Royal Enfield Apparel ให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบในการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้เส้นใยธรรมชาติ และกระดาษจากการปลูกป่าที่เหมาะสม รวมไปถึงการบริหารโรงงานและคลังสินค้าให้มีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสีเขียว และไม่มีการปล่อยของเหลวที่เป็นพิษสู่สิ่งแวดล้อม ตลอดจน มีการลดขยะสิ่งทอโดยนำกลับมาดัดแปลงและใส่นวัตกรรมในการผลิตใหม่ให้มากขึ้น (Upcycle) เช่น เสื้อ Riding Jacket ที่ทำมาจากขวดพลาสติก PET ขนาด 1 ลิตร จำนวน 75 ขวด และในส่วนของคอลเลกชันล่าสุด ทาง Royal Enfield Apparel ได้มีการ จับมือกับ Better Cotton ผู้จัดหาเส้นใยธรรมชาติจากกระบวนการส่งเสริมชุมชนและสังคม และได้นำมาใช้ผลิตเสื้อผ้าในกลุ่มคอลเลกชัน Motoverse นี้