พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยโฉมคอลเลคชั่นทรงออกแบบ สปริง/ซัมเมอร์ 2018 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME

Browse By

เฮนรี่เอ่ยว่า
ความรักเป็นตัวขับเคลื่อนให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเจ็บปวด ฉันให้คำสัญญาว่าจะกลับมาเพื่อตามหาเธอ รักเธอ และแต่งงานกับเธอด้วยเกียรติที่ฉันมี

เฮเลนรำพึงในใจว่า
เขาวิ่งฝ่าอากาศรอบตัว ผ่านพื้นแผ่นดินที่ส่งเสียงตอบรับเมื่อเขาสัมผัสท่วงท่าการขับเคลื่อนอาชาคู่กายของเขารวดเร็วและว่องไวราวกับเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนผ่านฟากฟ้าฉันค้นพบความสุขในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ปัจจุบัน ฉันสัมผัสได้ถึงพลังความสงบภายในและความแข็งแกร่งผ่านตัวเขา

ตอนหนึ่งจากบทพระนิพนธ์ .. 2560 ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์

เรื่องราวแห่งความรักระหว่างชายชาติทหารและสาวบ้านไร่ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นบทพระนิพนธ์ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ คือแรงบันดาลพร ะทัยหลักในการทรงงานออกแบบคอลเลคชั่นประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ที่มีชื่อว่า Horse, Helen, Henri ภายใต้ แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างเสื้อผ้าที่ดูเฟมินีน งานปักชั้นครู ไปจนถึงลายกราฟฟิก  ฝีพระหัตถ์อันเป็นเอกลักษณ์

ความรักแห่งเกียรติภูมินี้เริ่มต้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งดอกคาโนล่า (Canola) กำลังบานสะพรั่ง เหลืองอร่าม ณ ทุ่งคาโนล่าแห่งนี้ เฮเลนได้เห็นม้าตัวหนึ่งวิ่งผ่านทุ่งมา แต่ทว่าบนม้าตัวนั้น มีร่างของทหารหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามหลับใหลหมดสติอยู่  เฮเลนจึงได้พาชายหนุ่มนามว่าเฮนรี่ผู้นี้มาดูแลรักษาด้วยใจบริสุทธิ์ จนความรักความผูกพันของทั้งสองได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเกียรติแห่งชายชาติทหาร เฮนรี่ต้องกลับไปกองทัพ แต่ก่อนที่ทั้งสองจำต้องจากกัน เฮเลนได้วาดรูปม้าเป็นภาพแห่งความทรงจำให้ชายหนุ่ม

ในขณะที่  เฮนรี่ได้มอบเสื้อแจ็คเก็ตทหารให้แก่หญิงสาวที่ตนรักเป็นของต่างหน้า โดยเฮนรี่ให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะกลับมาเป็นคู่ชีวิตของเธอ ในช่วงต้นของการพลัดพราก ทั้งสองยังคงติดต่อกันอยู่ โดยเฮนรี่เขียนจดหมายด้วยลายมือสุดบรรจงถึงเฮเลน ส่วนเฮเลนก็พิมพ์ดีดเป็นจดหมายถึงคนรัก แต่เมื่อวันเวลาล่วงเลยผ่านไป จดหมายรักก็เผชิญกับอุปสรรคเมื่อทั้งคู่ต่างติดต่อกันไม่ได้ จนระยะเวลาผ่านไปแรมปี ประกายแห่งความรักในใจของเฮเลนก็เริ่มริบหรี่ ในใจของเธอทรมานกับการรอคอยยิ่งนัก จนกระทั่งวันหนึ่ง เฮเลนเดินออกไปยังทุ่งข้าวบาร์เลย์ที่แซมด้วยดอกป๊อปปี้สีแดงชาดราวกับริมฝีปากอันอวบอิ่มของเธอ และแล้วเฮเลนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่ก้องไปทั่ว ในใจเธอเต้นรัวราวกับนี่คือสิ่งที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต และเมื่อเฮเลนได้เห็นภาพเบื้องหน้า น้ำตาแห่งความปิติก็ไหลออกมา เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเธอนั้นก็คือ เฮนรี่ คนรักที่เธอรอคอย  ได้กลับมาอยู่ครองคู่กับเธอตามคำมั่นสัญญา

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งถึงเรื่องราวของบทพระนิพนธ์ว่า “ข้าพเจ้าได้ประพันธ์วรรณกรรมไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักระหว่างชายชาติทหารและสาวบ้านไร่ หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ได้นำเรื่องราวดังกล่าว มาตีความเป็นแฟชั่นในคอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเสื้อแบบ Asymmetrical (ไม่สมมาตร) งานปักที่บอกเล่าเรื่องราว รวมไปถึงการนำลัญลักษณ์ต่างๆ จากวรรณกรรมเรื่องนี้ มาถ่ายทอดเป็นรายละเอียดของคอลเลคชั่นเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจถึงคอนเซ็ปต์ของคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเดินเรื่องหลักอย่าง ม้า และอุปกรณ์ม้า สีของดอกคาโนล่า รวงข้าว ครั่งจดหมาย ดอกป๊อปปี้ ผึ้ง ฯลฯ”

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งต่อว่า “สำหรับคอลเลคชั่นนี้ โครงสร้างของเสื้อมีความซับซ้อนมาก มีทั้งโครงเสื้อแบบ Mermaid (หางปลา) แบบ Deconstructive (โครงเสื้อที่ไม่ใช่ตามแบบเผนเดิมๆ) Ballgown (ชุดราตรี) โดยได้นำมาผสมกับเทคนิคการตัดเย็บและรายละเอียดอันหลากหลายเข้าไปอีกเพื่อความแปลกใหม่ของคอลเลคชั่น อาทิ เทคนิคการเย็บแบบลาย Quilt (ลายข้าวหลามตัด) การตัดเย็บด้วยผ้าพลีต 3 มิติจากเวิร์คช็อป Gérard Lognon (เจราร์ โลนญง) ในกรุงปารีส รวมไปถึงการตกแต่งชุดด้วยการปักจากช่างฝีมือชั้นเลิศของแบรนด์ SIRIVANNAVARI เอง”

สำหรับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบสำหรับสุภาพสตรีประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ประกอบด้วยจำนวนเสื้อผ้าทั้งสิ้น 57 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรี 50 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ 7 ลุค มีความโดดเด่นที่หลากหลาย ตั้งแต่ชุดราตรียาวแนวโรแมนติกสีขาวที่ตกแต่งด้วยระบายทั้งตัว ชุดราตรีที่ปักระยับด้วยดอกไม้สามมิติสีแดง พร้อมด้วยการปักขนนกสามมิติ และรูปเกือกม้าที่ปักด้วยคริสตัล ไปจนถึงลุคที่ทะมัดทะแมงอย่าง เสื้อแจ็คเก็ตทหารนโปเลียนสีกรมท่าที่ปกเสื้อปักลายรวงข้าวและผึ้งด้วยดิ้นทอง ที่เข้าคู่กับกางเกงเอวสูง ไปจนถึงลุคแนว deconstructive ที่ดูเด่นด้วยเสื้อผ้าเดนิมชายลุ่ย (แบบ raw edge) ที่ตัดต่อเฉลียงด้วยผ้าซีทรูช่วงชายเสื้อที่เข้าคู่กับกางเกงยีนสีขาว และชุด Bustier (บุสติเยร์) หนังที่โดดเด่นด้วยลายเพ้นท์มือ

สิ่งพิเศษที่เห็นได้อย่างชัดเจนในคอลเลคชั่นนี้ก็คือ งานปักจากช่างฝีมือชั้นครู ซึ่งพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ได้ทรงก่อตั้ง SIRIVANNAVARI Atelier and Academy ขึ้นมาเพื่อสร้างสรรค์ผลงานการปักชั้นเลิศ โดยซีซั่นนี้ ได้นำเสนองานปักหลายรูปแบบบนเสื้อผ้าหลากสไตล์ อาทิ ดิ้นทอง ขนนก คริสตัล ดอกไม้ ไปจนถึงงานปักฝีมือสุดปราณีตที่เรียกว่า Appliqué (แอปปลิเก้ หรือ งานปักสามมิติ)

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ก็คือลายพิมพ์ภาพกราฟฟิก ทรงออกแบบ ซึ่งในซีซั่นนี้ องค์ดีไซเนอร์ได้ทรงออกแบบลายพิมพ์ที่ถ่ายทอดจินตนาการของบทกลอนพระนิพนธ์ ดังนั้นภาพกราฟฟิกจะแบ่งเป็น 2 คอนเซ็ปต์เป็นหลัก อย่างแรกคือลวดลายกราฟฟิกที่ประกอบด้วยม้าและอุปกรณ์ม้า ส่วนอย่างที่สองคือลวดลายกราฟฟิกที่มีดอกไม้ ผึ้งและรวงข้าว โดยลายกราฟฟิก ทรงออกแบบนี้ ได้ปรากฎให้เห็นอยู่บนผ้าพันคอหลากหลายขนาด ตั้งแต่ผ้าพันหูกระเป๋า ไปจนถึงผ้าคลุมไหล่ (120 ซม. X 120 ซม.)

นอกจากนี้ คอลเลคชั่นล่าสุดยังนำเสนอคอลเลคชั่นเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่ดูวิจิตรตระการตาภายใต้  ธีมของคอลเลคชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน ดังนั้น รูปทรงอย่าง ม้า อุปกรณ์ม้า รวงข้าว ดอกป๊อปปี้ จึงปรากฏให้เห็นอยู่ในรูปแบบของเครื่องประดับจิวเวลรี่เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ก็คือ เป็นครั้งแรกของ แบรนด์ที่มีการผลิตเซ็ท Fine Jewelry ขึ้น  ซึ่งมีทั้ง แหวน สร้อยคอ และต่างหู

สำหรับคอลเลคชั่นเครื่องหนังในซีซั่นนี้ มีความโดดเด่นที่เทคนิคการตัดเย็บหนังที่มีความละเอียดอ่อน ทั้งการฉลุด้วยเลเซอร์และการสานหนัง ดังเห็นได้จากกระเป๋าทรงกระบอกดูเก๋ด้วยหนังสานและประดับด้วยโลหะทองและดอกไม้ หรือจะเป็นกระเป๋าแบบ Tote Bag ที่ดูงดงามด้วยการฉลุหนังด้านข้างด้วยเลเซอร์และดูพิเศษด้วยลายเพ้นท์มือบนกระเป๋า ในขณะที่คอลเลคชั่นรองเท้าก็เผยให้เห็นเรียวเท้าของผู้สวมใส่ด้วยวัสดุโปร่งใสที่นำมาตัดเย็บ และดูเซ็กซี่ด้วยรายละเอียดของเชือกรองเท้า ที่ดูคล้ายเชือกรัดชุดคอร์เซ็ท มีทั้งแบบรองเท้าแตะ รองเท้าส้นสูง 3.5 – 4 นิ้ว ไปจนถึงรองเท้าบู้ทหนังสาน

เพื่อความสมบูรณ์ของคอลเลคชั่น องค์ดีไซเนอร์ทรงออกแบบคอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำซึ่งทำให้ผู้สวมใส่เพิ่มความเซ็กซี่ด้วยโครงสร้างแบบ Cut Out อวดเรือนร่างของหญิงสาว และเพิ่มความมีระดับด้วยการประดับคริสตัลสวารอฟสกี้สีสั่งทำพิเศษเฉพาะ (Custom made) อีกทั้งยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำเพื่อไลฟ์สไตล์ที่โก้หรูสำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี

นอกจากคอลเลคชั่นของสุภาพสตรีแล้ว ในซีซั่นนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ยังทรงออกแบบคอลเลคชั่นสำหรับสุภาพบุรุษภายใต้แบรนด์ S’Homme (เอส ออม) อีกด้วย โดยสไตล์ของเสื้อผ้าสุภาพบุรุษนั้น มีความโก้หรู แต่ดูลำลองสไตล์บ้านไร่ในยุโรป ที่สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกของเฮนรี่ ตัวละครหลักจากบทพระนิพนธ์ ดังเห็นได้จาก เสื้อแจ็คเก็ตทรงนโปเลียนที่ปักระยับด้วยดิ้นทองที่คอเสื้อ สาบเสื้อและชายแขน หรือจะเป็นชุดสูทกระดุมคู่ ที่กุ๊นขอบด้วยผ้าแดง ซึ่งเข้าคู่กับ กางเกงขลิบลายแดงด้านข้าง ไปจนถึงเสื้อโค้ททหารลายก้างปลาที่เข้าคู่กับกางเกงยีนส์ขาวที่ปักโลโก้อักษร S ด้วยดิ้นทอง และเสื้อแจ็คเก็ตผ้าวูลที่มีฮู้ด ส่วนเสื้อเชิ้ตก็ตกแต่งการตีเกล็ดที่แขนเสื้อและหลังเสื้อ ในขณะที่คอลเลคชั่นรองเท้าก็นำเสนอทั้งรองเท้าหนังดำผูกเชือกและรองเท้าผ้าใบ นอกจากนี้แล้ว คอลเลคชั่นล่าสุด ยังนำเสนอแอกเซสซอรีอย่างครบครัน ทั้งเข็มกลัดปักเสื้อสูทรูปรวงข้าว ไปจนถึงเนคไทลายพิมพ์เอกลักษณ์ประจำฤดูกาล

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งปิดท้ายว่า “นอกจากคอลเลคชั่นเสื้อผ้าแล้ว ในปีนี้ ข้าพเจ้ายังได้ประพันธ์เพลงใหม่ให้แก่วง Royal Bangkok Symphony Orchestra ไว้ใช้บรรเลงประกอบโชว์อีกด้วย ซึ่งบทเพลงที่ข้าพเจ้าได้ประพันธ์นั้นมี 5 ท่อนครึ่ง และเป็นเพลงแนวนีโอโรแมนติก ที่มีความโมเดิร์น ผสมด้วยกลิ่นอายของกีต้าร์อะคูสติก โดยบทเพลงบ่งบอกความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่าง เฮนรี่และเฮเลนอีกด้วย โดยมีเสียงของเครื่องพิมพ์ดีดเป็นลูกเล่นในเพลง เพื่อสะท้อนถึงจดหมายที่เฮเลนพิมพ์หาเฮนรี่”

การอยู่ร่วมกันทำให้ฉันรำลึกได้ถึงตัวตนอันเป็นปัจจุบัน และได้เรียนรู้ว่ารักคืออะไร ความสุขใจที่ระลึกอยู่ในจิตวิญญาณของฉัน ความห่วงหาและการสัมผัสนั้นฉันจะรอ
ตอนหนึ่งจากบทพระนิพนธ์ .. 2560 ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์

สามารถชมคอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 บริเวณแฟชั่นแกเลอรี่ 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน