Browse By

Category Archives: Fashion Review

HORA Wallet กระเป๋าสตางค์หนังแท้จากแบรนด์ NATTAPONG

NATTAPONG แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ขอนำเสนอคอลเล็กชั่นเครื่องหนังที่มีสไตล์กลิ่นอายโมเดิร์นและความครีเอทีฟซึ่งพร้อมใช้งานได้จริง เปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุด ปี 2020 HORA Wallet “โหรา” เปิดต้นปีมาพร้อมกับความเชื่อทางโหราศาสตร์ ดวงชะตาประจำวันเกิด การสรรหาสิ่งของอันเป็นมงคลมาเพื่อเสริมพลังในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องการเงิน การงานและโชคลาภด้วยเหตุนี้ จึงได้ผนวกเอาความเชื่อของดีไซเนอร์ทีี่มีอยู่เป็นทุนเดิมมารวมกับการออกแบบ สีสันและสไตล์ ถ่ายทอดออกมาเป็นกระเป๋าสตางค์หนังทรงยาว เพื่อจุดประสงค์หลักคือเสริมพลังทางการเงิน และโชคลาภในทางโหราศาสตร์แล้วสีต่างๆถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทีีี่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของบุคคล ส่งผลดีและลบได้แล้วแต่ว่าจะถูกโฉลกหรือเป็นกาลกิณีต่อดวงชะตาเจ้าของวันเกิด โดยวันเกิดตามจันทรคติ แบ่งเป็น 8 วัน ตามดวงดาว เริ่มต้นที่ วันอาทิตย์ จันทร์อังคาร พุธกลางวัน พุธกลางคืน พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ โดยการนับวันจะนับตั้งแต่เวลา 06.00 น. ที่พระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงเวลา05.59 น. ซึ่งจะนับเป็นวันถัดไป ต่างจากการนับวันตามนาฬิกาแบบสากลที่เปลี่ยนเป็นวันใหม่หลังเที่ยงคืนด้วยความที่ข้อมูลและรูปแบบการใช้สีกระเป๋าเสริมดวงที่มีอยู่ในโลกออนไลน์ยังไม่ตอบโจทย์ดีไซเนอร์นัก และการจะทำคอลเล็กชั่นนี้ต้องได้ข้อมูลการจับคู่สีที่มีความน่าเชื่อถือและสำคัญคือต้องถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้เชิญ หมอโอม ถอดรหัสชีวิตนักโหราศาสตร์ผู้คร่ำหวอดและมีชื่อเสียงในแวดวงพยากรณ์ มาเป็นที่ปรึกษาในการจับคู่สี

Max Mara คอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2020

‘นิยายต้องการตัวละครที่เป็นสายลับหญิงมากยิ่งขึ้น’ และ ‘เพราะผู้หญิงถูกฝึกฝนมาให้เก็บความลับเก่ง’ นี่คือคำพูดที่นาตาชา วอลเตอร์ (Natasha Walter) นักเขียนสาวได้กล่าวไว้ โดยนิยายของเธอใช้ตัวละครหลักเป็นสายลับที่เป็นผู้หญิง และตัวละครที่ว่าไม่ใช่นักสืบหญิงคนแรก แต่เป็นตัวละครฮีโร่สาวสุดคลาสสิก โมเดสตี้ เบลส (Modesty Blaise) ที่โด่งดังอย่างมากในปี 1963 และเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่ล่าสุดได้สร้างปรากฏการณ์ใน BBC America Killing Eve รวมถึงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ถึง 9 รางวัล  แม็กซ์ มาร่า (Max Mara) ได้นำจินตนาการถึงชุดที่ใช้ในภาพยนตร์ ซึ่งเปรียบ Modesty Blaise เสมือน 007 ใหม่ ซึ่งเธอชื่นชมถึงความสง่างามของบอร์น และได้นำฉากภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นในลอนดอน ทั้งฉากของรถที่แล่นผ่านกลางสายฝนในกรุงลอนดอนและเสียงของรองเท้าส้นสูงที่ดังกระทบพื้นบนทางเดินที่สะท้อนถึงพลังของผู้หญิง โดยตัวละครได้สวมเสื้อเทรนช์โค้ทสไตล์นักสืบ รวมถึงชุดยูนิฟอร์มของทหารที่สะท้อนถึงพลังที่กล้าหาญของหญิงสาว ผู้หญิงในแบบฉบับแม็กซ์ มาร่าจึงต้องเตรียมพร้อมรับสำหรับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทำภารกิจหรือไปงานเลี้ยง

อยู่บ้านแบบมีสไตล์ด้วยรองเท้าแตะสุดคูลรับหน้าร้อน

ช่วงนี้อยู่บ้าน Work from Home แต่ถึงอย่างนั้นหนุ่มๆ สาวๆ ก็สามารถลุกขึ้นมาแต่งตัวสนุกสนาน ต้อนรับซัมเมอร์ไปกับไอเทมรองเท้าแตะหลากสไตล์จากหลากหลายแบรนด์ในเครือแปซิฟกา กรุ๊ป (Pacifica Group)  ไม่ว่าจะเป็น Camper, Kenneth Cole, Geox, Keds และ Birkenstock ที่จะทำให้การ Stay Home ไม่น่าเบื่อแถมได้ครีเอทลุคสนุกๆ มิกซ์แอนแมทช์แบบชิวๆ ใส่ในบ้านหรือใส่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบมีสไตล์อีกด้วย Camper ในส่วนของสุภาพสตรี Camper เอาใจสาว ๆ ด้วยการกลับมาของรองเท้าแตะรุ่น ORUGA UP ที่มาในเฉดสีน่ารัก สดใส บ่งบอกถึงซัมเมอร์ พร้อมดีไซน์ส้นหนา (Chunky) ที่ใช้แผ่นยาง EVA นุ่ม ๆ ในการเพิ่มความสูงให้กับสาว ๆ ทำให้ขาดูเรียวยาว

เพราะทุกวันคือรันเวย์ เทรนด์ยีนส์สุดฮอตที่สาวๆ ไม่ควรพลาด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์สตรีทแวร์ได้มีอิทธิพลอย่างสูงในวงการแฟชั่นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ทั้งลักซ์ชัวรี่ไฮแบรนด์ หรือแบรนด์ฟาสท์แฟชั่น ต่างดีไซน์สินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลาย ทำให้ทุกวันนี้แฟชั่นสตรีทสไตล์ถูกลดทอนลงเพื่อเหมาะสมกับการสวมใส่ทุกโอกาสมากขึ้น ด้วยวัฒนธรรมการทำงานที่เปลี่ยนไป คนยอมรับการแต่งตัวที่ Casual มากขึ้น เช่น เทรนด์ที่สาวๆหันมาสวมใส่สนีกเกอร์ไปทำงาน หรือประชุมจนกลายเป็นภาพชินตา ดังนั้นในปี 2020 นี้ แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกต่างเริ่มเผยโฉมเทรนด์และคีย์ลุคของแต่ละแบรนด์ ให้สาวก ‘สายแฟ’ ได้เตรียมพร้อมกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ ‘ยีนส์’ ที่กลายเป็นสิ่งที่สาวๆต้องมีติดตู้สำหรับซีซั่นนี้ ด้วยรูปทรงของกางเกงยีนส์ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เอวสูง เอวต่ำ ข้าม้า สกินนี่ ทรงกระบอก ขากว้าง หรือแม้แต่ขาสามส่วน และสี่ส่วน ซึ่งแต่ละแบรนด์ได้หยิบยกยีนส์ตามสไตล์ของตัวเองมาไว้บนรันเวย์ ไม่ว่าจะสไตล์ขาบานทรง Bootcut เอวสูงมาใส่กับ เสื้อเชิ้ต และเบลเซอร์ ได้ลุควินเทจสุดเก๋สำหรับใส่ไปทำงานพร้อมปาร์ตี้ต่อ หรือจะเป็นการรังสรรค์ยีนส์ในแบบของตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละแบรนด์ได้หยิบยกยีนส์ตามสไตล์ของตัวเองมาไว้บนรันเวย์ นำโดยเซลีน (Celine) ที่มีหัวเรือใหญ่อย่างเฮดี สลิมาน

BURBERRY Autumn/Winter 2020 Pre-Collection

“คอลเล็กชั่นนี้ถือเป็นการสดุดีเอกลักษณ์ของ Burberry ที่ผมกำลังสร้างขึ้นใหม่ที่นี่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานการสร้างสรรค์ในอดีตนำมาใช้ออกแบบเพื่อมุ่งสู่อนาคต อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองอิสรภาพและความแตกต่างหลากหลายในสิ่งที่ Burberry นำเสนอ ไม่ว่าจะเป็น รูปทรงของงานเอาต์เตอร์แวร์ ลายพิมพ์ ควบคู่ไปกับสัดส่วนที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น ความประณีตในการตัดเย็บและโครงชุดที่ดูเรียบหรู ซึ่งกลายมาเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของเรา” ริคคาร์โด ทิสชี่ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ Burberry กล่าว สำหรับคอลเล็กชั่นก่อนฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2020 (Autumn/Winter 2020 Pre-Collection) ริคคาร์โด ทิสชี่ ยังคงนำเสนอเอกลักษณ์ใหม่ของห้องเสื้อที่เก่าแก่แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง นำเอาชิ้นงานและลายพิมพ์จากผลงานการสร้างสรรค์ในอดีตของ Burberry มาใช้ในการตีความใหม่และสร้างสรรค์ใหม่อย่างอิสระและเต็มไปด้วยความสดใหม่  โดยเฉพาะการสร้างสัดส่วนใหม่ของผลงานในอดีตที่นำเอามาใช้ในคอลเล็กชั่นนี้ รวมไปถึงลายพิมพ์และการตัดเย็บด้วย อย่างการเย็บควิลท์ก็ใช้การเย็บด้วยด้ายในโทนสีสด ลายตารางอันคลาสสิกของแบรนด์ก็ถูกใช้ในแบบการผสมผสานกับลายพรางหรือสร้างเป็นลายตารางหมากรุก รูปแบบการสร้างสรรค์ใหม่จากผลงานในอดีตนี้มีให้เห็นตั้งแต่เสื้อทีเชิ้ตไปจนถึงเสื้อโค้ต การตัดเย็บแบบงานเทเลอร์และกางเกงแทรค ความแตกต่างหลากหลายนี่เองที่เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเอกลักษณ์ใหม่ของ Burberry เสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรี เทรนช์โค้ทถูกนำมาสร้างสรรค์ใหม่ด้วยผ้าเจอร์ซี่ที่มีความพลิ้วไหวมากขึ้น ใช้ริ้วหนังประดับและลวดลายกราฟฟิตี้ ในส่วนของงานเอาต์เตอร์แวร์นั้น มีทั้งแจ็กเก็ตขนสัตว์ โค้ทและแจ็กเก็ตบุนวม การใช้ผ้าแคชเมียร์สองหน้าและผ้าวูลเครป เสื้อสูทและกระโปรงใช้การเย็บควิลท์

Keds : Whatever That Means

เคดส์ (Keds) เริ่มต้นปีใหม่ด้วยแนวคิดใหม่ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงและความหลากหลายที่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ โดยแนวคิดรูปแบบใหม่นี้จะขยายขอบเขตคำนิยามที่ผู้หญิงสร้างให้ตัวเอง ผ่านถ้อยคำและการแสดงออกของพวกเธอ นั่นคือหัวใจหลักของความหลากหลายอันไม่สิ้นสุด ตัวแทนอันไร้ขอบเขต และความมุ่งมั่นที่จะลงมือทำไม่ใช่เพียงคำพูด ดังนั้นเคดส์จึงได้สร้างสรรค์รองเท้าที่ซัพพอร์ทผู้หญิงในทุกรูปแบบที่พวกเธอเป็น ผ่านคอนเซ็ปต์หลักทั้ง 3 คอนเซ็ปต์ออกมา Define your power – สร้างนิยามให้พลังในตัวคุณ  เหมือนอย่างรองเท้าเคดส์รุ่นแชมเปี้ยน (Champion) – รองเท้าผ้าใบรุ่นคลาสสิกของแบรนด์ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว รองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าผ้าใบตัวแรกสำหรับผู้หญิง สวมใส่ง่าย ช่วยให้พวกเธอทำลายกำแพง และท้าทายความคาดหวังทางสังคมต่างๆ  ในปีนี้นอกจากโทนสีขาวสะอาดตาแล้ว ยังมาในโทนสีสดใสให้ได้เลือกแมทช์กับเสื้อผ้าหลากสไตล์ยิ่งขึ้น   Take your Power – ใช้พลังที่มีของคุณ ด้วยกระแสย้อนยุคสไตล์สปอร์ตและพื้นรองเท้าหนาๆ ของช่วงปี 2518 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ซึ่งเป็นสไตล์ที่นำมาจากรองเท้าของเด็กผู้ชายที่ถูกดัดแปลงให้เหมาะสำหรับผู้หญิงนั่นคือ รองเท้ารุ่นครูว์ คิก (Crew Kick)

#OURTRADITION แคมเปญใหม่ของ Ray-Ban

ความสุขเกิดขึ้นจากการไม่คาดหวัง และความสุขก่อเกิดจากคนใกล้ชิด ที่เข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะลืมว่าจุดเริ่มต้นเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์จะทำให้หวนถึงจุดเริ่มต้นอีกครั้ง ในเทศกาลวันหยุดนี้ แคมเปญใหม่ของ Ray-Ban #OURTRADITION เล่าถึงเรื่องราวการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายตามสไตล์ Ray-ban และในเรื่องราวนั้น มีสองเรื่องราวทับซ้อนกันราวกับตั้งใจ เรื่องเกิดขึ้นที่ปั๊มน้ำมัน กลางทะเลทรายในอเมริกา หญิงสาวที่รออยู่ในรถเปิดประทุนสีแดงพร้อมกับเพื่อนร่วมทาง กวางตัวใหญ่ของเธอ ที่มักจะอยู่ด้วยกันเสมอในเทศกาลวันคริสต์มาส และเธอพบกับครอบครัวในรถแวนแคมเปอร์ ที่กำลังมุ่งหน้าออกเดินทางไปทางเหนือในช่วงวันหยุด แต่แล้วรถกลับเสียกลางทางจนทำให้พลาดการเฉลิมฉลองในวันคริสต์มาส ถึงแม้ครอบครัวนี้จะพลาดการเฉลิมฉลองไป แต่เหตุการณนี้ทำให้พวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน จากความบังเอิญที่เกิดขึ้น แว่นตา Ray-Ban สามรุ่นที่ตัวละคร สวมใส่เป็นของจริงและดึงดูดความสนใจเหมือนตัวแคมเปญ RB3119M Olympian I Deluxe คือรุ่นที่ดี่ทีสุดของ Ray-Ban ด้วยดีไซน์แบบดั้งเดิม ที่ห่อหุ้มแบบไดนามิก แถบโค้งจากหูถึงคิ้วและรูปทรงที่คลาสสิคเหนือกาลเวลา RB2219 ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ของแชมเปี้ยนที่สรรสร้างขึ้นเพื่อนักกีฬาโอลิมปิกซึ่งเป็นแว่นรุ่นไอคอนมาตั้งแต่ปี 1968 ด้วยเส้น คิ้วและขาแว่นโลหะที่เพรียวบางไล่ยาวจากหู ข้างหนึ่งถึงอีกข้างหนึ่งเพื่อสไตล์ปราดเปรียว แบบนักกีฬา

Mettique แบรนด์เครื่องหนังไทย เปิดบ้านเผยต้นกำเนิดและกระบวนการผลิตผ่านงานฝีมือสุดประณีต

เมธธีค (Mettique) แบรนด์เครื่องหนังลักซ์ชัวรี่สัญชาติไทย ภายใต้การดูแลของ เมธ เฮ้งตระกูล ผู้ก่อตั้งและดีไซน์เนอร์แบรนด์ เผยต้นกำเนิดงานฝีมือสุดประณีต เดอะ อาเทอลิเยร์ (The Atelier Co., Ltd.) ฐานการผลิตที่เป็นหัวใจสำคัญของ เมธธีค และ ควิลเบอร์รี่ (Quillberry) แบรนด์กระเป๋าสานน้องใหม่สุดชิค พร้อมเปิดตัวพาร์ทเนอร์คนสำคัญ มร.เปาโล เทสติ ประธานบริษัท La Bretagna โรงงานฟอกหนังและย้อมสีระดับโลกจากประเทศอิตาลี ที่บินตรงมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และนวัตกรรมการฟอกหนังของแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ด้วยวิสัยทัศน์ของ เมธ เฮ้งตระกูล ที่เชื่อมั่นว่างานฝีมืออันประณีตต้องมีจุดเริ่มต้นมาจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ผสานกับรูปแบบการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และวัสดุอันล้ำเลิศ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์เมธธีค จึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้หลังคาบ้าน เดอะ อาเทอลิเยร์ สถานที่ที่รวบรวมช่างฝีมือชาวไทยที่มีประสบการณ์ในการตัดเย็บหนังมายาวนานกว่า 25 ปี และได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มาอย่างมากมาย อาทิ เคสสำหรับเครื่องชงกาแฟอิตาเลี่ยน เนสเปรสโซ

MAX MARA RESORT 2020 COLLECTION

ในโอกาสครบรอบ 30 ปี แม็กซ์ มาร่า ได้จัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงแห่งศิลปะ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจคอลเลคชั่นจากงานศิลปะโดย Schindler, Gropius และ Van Der Rohe และศิลปินยุคใหม่อย่าง Foster, Piano, Gehry, Libeskind และ Chipperfield แนวทางการออกแบบของแม็กซ์ มาร่า มักจะคล้ายคลึงกับงานสถาปัตยกรรม ซึ่งพิพิธภัณฑ์ Neues เป็นเหมือนปรัชญาของแบรนด์ แม็กซ์ มาร่าในด้านของมรดก ประวัติศาสตร์ และเรื่องราว ควบคู่ไปกับความมุ่งมันที่จะนำเสนอสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบง่าย แบรนด์แม็กซ์ มาร่า เป็นเกียรติมากที่เป็นแบรนด์แรกที่ได้จัดแสดงแฟชั่นโชว์ภายในสถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนอนุสรณ์และสถานที่รำลึกถึงเรื่องราวเหตุการณ์ครั้งสำคัญในอดีต ภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยคอลเลคชั่นวัตถุโบราณอันล้ำค่าระดับโลกที่มาจากยุคก่อนและหลังประวัติศาสตร์ และยังมีวัตถุสไตล์โมเดิร์นที่ซ่อนรายละเอียดอันซับซ้อนที่มีขึ้นก่อนที่มนุษย์จะถือกำเนิดขึ้นอีก อย่างเช่นหนึ่งในวัตถุโลหะอันล้ำค่าจากยุคสำริดอย่าง ‘Berlin Gold Hat’ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคอลเลคชั่นเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นกำไล สร้อยคอและต่างหู

คอลเลคชั่นชุดไทยสุดโมเดิร์นสำหรับเจ้าบ่าวแห่งยุค “วาริชพิพัฒ”

กลับมาอีกครั้งกับคอลเลคชั่นชุดไทยสุดโมเดิร์นสำหรับเจ้าบ่าวแห่งยุค ที่จะเนรมิตให้คุณสุภาพบุรุษดูดีและสง่างามมากที่สุดในวันสำคัญของคุณ และครั้งนี้ทาง ห้องเสื้อ วาริช สูท ก็มีไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่ต้องการออกแบบให้ชุดไทยออกมาในรูปแบบร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างครบถ้วน โดยคำนึงถึงรสนิยมของผู้สวมใส่เป็นหลัก และนับเป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่อยากให้แฟนๆได้ติดตามกัน ซึ่งครั้งนี้ได้นายแบบหนุ่ม เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานในคอลเลคชั่นนี้ภายใต้ชื่อ “วาริชพิพัฒ” ซึ่งมีแบบให้เลือกทั้งชุดไทยโบราณและชุดไทยประยุกต์มากกว่า 10 แบบ ด้วยกัน โดยเน้นโทนสีสุดคลาสสิคอย่าง สีกรม ดำ เทา ขาว และ น้ำตาล  ซึ่งในแต่ละลุคที่หนุ่มเจษได้ถ่ายทอดออกมานั้นมีความสง่างามสมชายชาตรีอย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะชุดไทยประยุกต์ที่หนุ่มเจษสวมใส่อยู่นั้นจะมีความโมเดิร์นเป็นพิเศษ เป็นชุดที่ช่วยเสริมลุคให้เจ้าบ่าวดูโดดเด่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยสไตล์มากขึ้น เป็นการผสมผสานระหว่างชุดไทยและสากลเข้าด้วยกัน ด้านบนออกแบบตัวเสื้อเป็นสูทสากลทรงสลิมตัดเย็บจากผ้าวูเนื้อดีจากอิตาลี นำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับโจงกระเบนผ้าไหมไทยเกรดพรีเมียมที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตงดงาม เป็นการผสมผสานที่ดูหรูหราและมีคลาสสุดๆ นอกจากนี้ยังคงมีชุดไทยโบราณอีกหลากหลายชุดที่ถูกออกแบบให้มีความเรียบหรูดูแพงไม่แพ้กัน เหมาะสำหรับเจ้าบ่าวยุคใหม่ที่มีรสนิยมและ  ชื่นชอบความเป็นไทยแต่อยากมีสไตล์ในแบบของตัวเอง สำหรับคุณสุภาพบุรุษท่านใดที่อินกับการใส่ชุดไทยและกำลังมองหาสำหรับใช้ในพิธีสำคัญ สามารถขอเข้ารับคำปรึกษาได้แล้ววันนี้ที่ ห้องเสื้อ วาริชสูท ได้ที่ปากซอยลาดพร้าว 52-54  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่   https://www.facebook.com/varichsuit/ หรือโทร 0952480589